กฎ 94% กฏเหล็กของความเป็นผู้นำ ช่วยรักษาพนักงานเก่งไว้กับองค์กร

ยุคที่องค์กรมากมายต่างแข่งขันกันเพื่อค้นหา และรักษาพนักงานที่เก่งนั้นเป็นเรื่องยาก ทำให้องค์กรต่าง ๆ ต้องหาวิธีรักษาบุคลากรที่มีความสามารถเอาไว้ ในบรรดาวิธีมากมายที่จะรักษาคนเก่งไว้

Last updated on ส.ค. 29, 2023

Posted on ส.ค. 23, 2023

กฎ 94% ของ W. Edwards Deming ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ผู้นำสามารถนำมาปรับใช้กับองค์กร เพราะด้วยแนวคิดอันเรียบง่ายอย่างการเข้าใจถึงระบบนั้นก็ช่วยสร้างวัฒนธรรมการทำงานในเชิงบวกที่ดีขึ้นได้

กฎนี้ระบุว่า 94% ของปัญหาภายในองค์กรมักเกิดจาก ‘ระบบ’ ในขณะที่เพียง 6% จะเกิดจากพนักงาน กฎนี้ทำให้เราเห็นว่าผู้นำองค์กรต้องเน้นไปที่การปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานโดยรวม มากกว่าการกล่าวโทษตัวบุคคลเพียงอย่างเดียว

ปัจจัยอะไรที่ทำให้ระบบขององค์กรไม่ดี?

💫 สถานที่ทำงาน toxic จนทำให้คนลาออก 💫

เหตุการณ์นี้เกิดจากการที่ลีดเดอร์หรือผู้นำองค์กรไม่สามารถ take action กับปัญหาได้อย่างทันท่วงที มันองค์กรขาดความไว้วางใจกัน, มีภาระงานล้น ไปจนถึงการใช้คำพูดเชิงลบใส่กัน ซึ่งสภาพแวดล้อมเหล่านี้สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แย่กว่าเดิมได้ อาทิ การผลัดเปลี่ยนของพนักงานบ่อย, รายได้ของบริษัทลดลง และพนักงานหมดไฟ

💫 ขาดการยอมรับจากผู้นำ 💫

พนักงานต้องการให้ความพยายามของพวกเขาได้รับการยอมรับจากหัวหน้า เมื่อหัวหน้าไม่รับรู้สิ่งนี้ มักนำไปสู่ความรู้สึกหมดกำลังใจขึ้นมาได้

💫 ขาดการสื่อสารที่ดี 💫

ผู้นำที่มีประสิทธิภาพมีความสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรเชิงบวก เมื่อผู้นำล้มเหลวในการสื่อสารหรือไม่สามารถรับฟังข้อกังวลใจของพนักงานได้ มันจะบั่นทอนความไว้วางใจ และนำไปสู่ความคับข้องใจของพนักงาน

💫 Job description ไม่เหมือนกับที่คุยไว้ 💫

JD ที่ไม่ตรงตามปก ตั้งแต่ปริมาณงานที่มากเกินไป และการเลิกงานที่ไม่ตรงตามเวลา ไปจนถึงทรัพยากรไม่เพียงพอนั้น ทำให้พนักงานรู้สึกเหนื่อยหน่ายได้ง่าย ความล้าทางใจนี้ทำให้พนักงานตัดสินใจหางานอื่นในที่สุด

💫 ปัญหาการบูลลี่ 💫

แม้จะเป็นในยุคนี้แล้วปัญหาการบูลลี่ก็ยังมีอยู่ ซึ่งการเลือกปฏิบัติในองค์กรค่อนข้างส่งผลกระทบทางจิตใจ ต่อพนักงานอย่างรุนแรง ความ toxic ดังกล่าวไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อเหยื่อเท่านั้น แต่ยังทำลายบรรยากาศการทำงานโดยรวมอีกด้วย


ผู้นำจะจัดการกับระบบที่เป็นพิษนี้ยังไงดี?

1. คุยแบบเปิดอก

การส่งเสริมวัฒนธรรมที่พนักงานมีความสบายใจในการแสดงความคิดเห็น หรือขอคำติชมอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้พวกเขามีความกระตือรือร้นในการทำงานมากขึ้น และสามารถพูดกับหัวหน้าได้ทุกเรื่อง

2. ชื่นชมพนักงานซะบ้าง

การยกย่องชื่นชมผลงานของพนักงาน หรือยินดีกับเหตุการณ์สำคัญในชีวิตพวกเขา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยม และเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับพนักงานได้

3. ลงทุนเพื่อพนักงาน

การลงทุนในการพัฒนาวิชาชีพของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นการฝึกอบรม การรับคำปรึกษา หรือกระทั่งโอกาสก้าวหน้าในอาชีพ ช่วยให้พนักงานมีแนวโน้มที่จะอยู่ในองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการเติบโตของพวกเขามากขึ้น

4. ส่งเสริมความสมดุลในการทำงาน

องค์กรหรือผู้นำสามารถส่งเสริมความสมดุลในการทำงาน ด้วยการนำเสนอเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นหรือการทำงานจากระยะไกลได้ เพราะความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงาน และความพึงพอใจในการทำงานที่ดีกว่าเดิม

5. อย่าปล่อยให้มีเรื่อง toxic

กำหนดนโยบายที่ห้ามการบุลลี่ และเลือกปฏิบัติ ซึ่งการจัดการกับเหตุการณ์ที่ได้รับการร้องเรียนอย่างทันท่วงที จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยต่อพนักงานได้

6. ลงทุนในความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน

จัดหาทรัพยากร และการสนับสนุนสำหรับความเป็นอยู่ที่ดีไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือทางจิตใจของพนักงาน ซึ่งนี่รวมถึงการเข้าถึงบริการให้คำปรึกษา และโปรแกรมสุขภาพด้วย


กฎ 94% เป็นเครื่องเตือนใจที่ทรงพลังว่าผู้นำที่มีประสิทธิภาพในองค์กรไม่ใช่คนที่พาองค์กรไปข้างหน้าอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงเป็นคนที่ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในองค์กรด้วย ซึ่งผู้นำที่เข้าใจหลักการนี้สามารถส่งเสริมวัฒนธรรมของการทำงานร่วมกันของพนักงาน มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงระบบทั้ง 94% มากกว่าการกล่าวโทษบุคคล ซึ่งสามารถช่วยให้องค์กรสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นบวก รักษาคนเก่งไว้ ไปจนถึงขับเคลื่อนบริษัทไปสู่อนาคตที่ยังยืนได้


ที่มา

trending trending sports recipe

Share on

Tags