7 เทรนด์จาก Thailand Digital Trends ที่นักการตลาดและเอเจนซี่ต้องรู้

Last updated on ก.ย. 8, 2020

Posted on ก.ย. 8, 2020

สรุปจาก DAAT Talk ครั้งที่ 4 ในหัวข้อ “DIGITAL TRENDS TALK” โดย Digital Advertising Association (Thailand) /  DAAT

Trend 1 นักโฆษณาหรือเอเจนซี่ ต้องช่วยลูกค้าขายของให้ได้ กับความท้าทายที่มากขึ้นกว่าอดีต!

ผลจาก Covid-19 หลังจากนี้เศรษฐกิจจึงอยู่ในระหว่างฟื้นตัว กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง แต่ในขณะเดียวกัน ความกดดันในการทำธุรกิจกลับเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้เป็นบทบาทของเอเจนซี่โฆษณาและนักการตลาดที่ต้องก้าวข้าม 

6 เดือนล่าสุด บทสนทนาระหว่างเอเจนซี่กับลูกค้าเปลี่ยนไป จากเดิมที่จะคุยกับเรื่องของ Engagement Rate, CTR หรือ CPM เป็นต้น แต่ปัจจุบันเราพูดกันถึงว่า ยอดขายเพิ่มเท่าไหร่แล้ว เงินที่เสียไป พายอดขายมาได้เท่าไหร่ ได้ลูกค้าเท่าไหร่ ซึ่งแน่นอนในวงการเอเจนซี่จึงต้องมีความรับผิดชอบที่มากขึ้น

จากแต่ก่อนที่เอเจนซี่เราจะคุยกันในเรื่องของ 4P แต่ปัจจุบันได้ยกระดับไปกว่านั้น เช่น เอเจนซี่ต้องช่วยออกแบบโปรโมชั่น ช่วยคิดราคา ช่วยสำรวจราคาที่แข่งขันในตลาด ช่วยวิเคราะห์สินค้า หาไอเดียใหม่ ๆ และต้องช่วยลูกค้าหาพาร์ทเนอร์ เพื่อให้เกิดมิติใหม่ ๆ ในแง่ของการขาย หรือแม้กระทั่งการวิเคราะห์ข้อมูล การหาแหล่งข้อมูลใหม่ ๆ เพื่อมาเชื่อมต่อกับข้อมูลของลูกค้า เพื่อเพิ่มยอดขาย 

สรุปได้ว่า เอเจนซี่ต้องช่วยลูกค้าหาให้ได้ว่า ปัจจัยใดที่ทำให้เกิดยอดขาย หรือปัจจัยใดที่จะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 

ฟังหัวข้อ Helping our Clients Sell โดยคุณศิวัตร เชาวรียวงษ์ ได้ที่ https://www.facebook.com/daat.digital/videos/2809408389343368

Trend 2 งานครีเอทีฟที่มี Media เป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อน

ในอดีต Creative Agency กับ Media Agency ทำงานแยกส่วนกัน ซึ่งพอในปัจจุบันได้เกิดดิจิทัลแพลตฟอร์มต่าง ๆ ขึ้นมามากมาย เมื่อทำงานแยกกันแต่ละฝั่งก็จะสนใจ insight ที่ต่างกัน เช่น ครีเอทีฟจะสนใจ insight ของคน ในขณะที่คนทำมีเดียก็จะสนใจเรื่องของ Data บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ดังนั้นจึงทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนจริง ๆ กับคนที่อยู่บนมีเดีย ซึ่งไม่ใช่สิ่งเดียวกัน 100%

ดังนั้น เราต้องทำความเข้าใจ insight ระหว่างคนจริง ๆ กับคนที่อยู่บนมีเดียสำคัญมาก จากเดิมที่เราคิดงานมา 1 ไอเดีย แล้วนำไปปรับให้เข้ากับหลาย ๆ แพลตฟอร์ม จะกลายมาเป็นการนำด้วยมีเดียขึ้นก่อน แล้วสร้างหลาย ๆ ไอเดียมาเพื่อซัพพอร์ตให้แตกต่างกันไปในแต่ละแพลตฟอร์ม เพราะฉะนั้นเราต้องเข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในแต่ละมีเดียก่อน ดังนั้น ครีเอทีฟและมีเดียต้องทำงานใกล้ชิดร่วมกันมากกว่าเดิม

ฟังหัวข้อ Media-Fueled Creativity, The Inevitable โดยคุณภารุจ ดาวราย ได้ที่  https://www.facebook.com/daat.digital/videos/2809408389343368

Trend 3 Precision Marketing การตลาดแบบเจาะจง

ช่วง 1-2 ที่ผ่านมาเราเก็บ Data กันมากขึ้น เริ่มเข้าใจผู้บริโภคมากขึ้น ดังนั้นทุกวันนี้เรานำ Data มาหลอมรวมกับยุคดิจิทัลกันมากขึ้น Data จึงเหมือนเลเซอร์ที่ช่วยชี้เป้าในการยิง Ads ทำให้นักการตลาดรู้ว่าจุดไหนคือจุดที่ควรใช้เงิน จุดไหนที่ควรผ่อนแรง

การตลาดเจาะจง มีอยู่ 3 เรื่อง

  1. Data-Driven รู้ได้ว่าผู้บริโภคเป็นใคร คิดอะไร และกำลังจะทำอะไร 
  2. Performance Ads เมื่อรู้จักผู้บริโภค แพลต์ฟอร์มจึงทำงานได้ดี สามารถนำเสนอโฆษณาให้ถูกคน ถูกที่ 
  3. Creativity ใช้ครีเอทีฟคอนเทนต์ให้เหมาะสมกับคนที่อยู่ในแต่ละแพลตฟอร์ม

ดังนั้น Precision Marketing ไม่ได้เน้นเรื่องของ tech แต่เป็นออกแบบ experience ให้ผู้บริโภค เขาอยู่ที่ไหน เขาควรจะเห็นอะไร และเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาเอง

ฟังหัวข้อ Precision Marketing โดยคุณอนันฑ์ ตีระบูรณะพงษ์ ได้ที่  https://www.facebook.com/daat.digital/videos/2809408389343368

Trend 4 Game is The New Entertainment

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีคนเล่นเกมมากกว่า 20 ล้านคน ใช้เวลากว่า 13 ชม. ต่อสัปดาห์ แต่การจะนำสินค้าไปผูกกับเกมทำได้ยาก แต่เมื่อมองลึกไปกว่านั้นพบว่า 45% ของคนที่ดู YouTube มีความสนใจเนื้อหาที่เกี่ยวกับเกม ซึ่ง 50% เป็นกลุ่มช่วงอายุ 18-35 ปี เป็นกลุ่มที่กำลังจะเติบโตและพร้อมที่จะจับจ่ายซื้อสินค้า นับว่าเป็นช่องทางที่คนใช้เวลาค่อนข้างเยอะ ซึ่งในประเทศไทย แพลต์ฟอร์มหลัก ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกม คือ YouTube, Facebook Gaming และ Twitch 

ดังนั้นจึงเป็นพื้นที่ที่น่าสนใจมาก ๆ ที่แบรนด์จะกระโดดเข้าไปสร้าง Reach ผ่าน Gamer เช่น การ Tie in ระหว่างที่ไลฟ์, การเข้าไปเป็น Sponsor หลักของ Channel หรือการทำคอนเทนต์ร่วมกัน เป็นต้น เป็นโอกาสดีมาก ๆ ที่จะสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ที่เป็น Young Gen 

ฟังหัวข้อ Build your Brand through Gamer โดยคุณนรินทร์ เย็นธนกรณ์ ได้ที่  https://www.facebook.com/daat.digital/videos/2809408389343368

Trend 5 Future of Personalization Ad เพิ่มประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย

ปัจจุบันการวางแผนสื่อ เราไม่ได้มองว่าเราจะลงในสื่อไหน อย่างไร แต่เรามองว่ากลุ่มลูกค้าเราเป็นใคร มีพฤติกรรมอย่างไร ดังนั้นจึงเกิด Audience First Media Planing เน้นไปที่การเพิ่ม Performance Campaign และลดค่าใช้จ่ายกับมีเดียที่ไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการลง

ดังนั้นนักการตลาดหรือเอเจนซี่ควรทำอย่างไร

  1. Tech การใช้เทคโนโลยีเข้ามา Optimize ให้เข้าถึงกลุ่มคนเฉพาะกลุ่มได้  
  2. Talk ข้อความที่จะสื่อสาร ต้อง Optimize ให้แตกต่างกันไปในเป้าหมายแต่ละกลุ่ม 
  3. Tactic ลูกค้าเห็นโฆษณาครั้งแรกแต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ เราสามารถทำ Retargeting ด้วยโฆษณาชิ้นอื่น ๆ

ฟังหัวข้อ Future of Personalization Ad โดยคุณศุภฤกษ์ ตั้งเจริญศิริ ได้ที่  https://www.facebook.com/daat.digital/videos/2809408389343368

Trend 6 แบรนด์ต้องการมีแพลตฟอร์ม E-Commerce เป็นของตัวเอง

เนื่องจากแต่ก่อนการขายสินค้าบน E-Marketplace ชั้นนำในตลาด เรานำ Data มาใช้ได้ค่อนข้างน้อย เพราะ  E-Marketplace เป็นคนที่ถือ Data ไว้ ปัจจุบันหลายแบรนด์ต้องการทำแพลต์ฟอร์มเป็นของตัวเอง เพราะในระยะยาวสามารถเก็บ Data ของลูกค้าได้มากขึ้น สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อระบุได้ว่า ลูกค้าคนนี้มีความสนใจอะไร เพื่อนำมาออกแบบ journey ของลูกค้า ว่าถ้าเขามาที่หน้าแพลตฟอร์มของแบรนด์เขาจะได้เจออะไรบ้าง เพื่อที่จะนำเสนอสินค้า บริการ ได้ตรงความต้องการแต่ละคน

เราเก็บ Data จากลูกค้าได้จากไหนบ้าง เช่น

  • Social Media ก่อนที่จะเข้ามาเว็บไซต์เรา
  • ตลอดเส้นทางที่ลูกค้าอยู่บนเว็บไซต์
  • ช่องทางการชำระเงิน
  • การใช้สิทธิโปรโมชัน แต้มสะสม 
  • ฯลฯ 

ฟังหัวข้อ DATA/Tech-Powered DTC, the New Normal in e-commerce โดยคุณกัณฑ์ณฐกรณ์ รัตนวีณาวาที ได้ที่  https://www.facebook.com/daat.digital/videos/2809408389343368

Trend 7 ทุกคนคือ Influencer

จากคลื่นของคนกลุ่ม Gen C ที่เข้ามามีบทบาทในโลกออนไลน์ คนที่เป็น Influencer จึงมีจำนวนมากขึ้น รวมถึงปัจจัยทางด้าน Social Media ที่ทำให้เราสามารถเป็น Influencer ได้เพียงชั่วข้ามคืน และธรรมชาติอย่างหนึ่งที่ทำให้ Influencer เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วคือ ความ real 

ซึ่งในมุมนักการตลาดและเอเจนซี่เองก็มีการปรับตัว เริ่มมองหา Short-term Solution ดังนั้น Influencer จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มยอดขายในระยะสั้น 

Influencer เป็นมากกว่าแค่การกระจาย Message ออกไป แต่สามารถช่วยแบรนด์ นักการตลาดในเรื่องการสื่อสารรายละเอียดสินค้า บริการ เสมือนเป็นตัวแทนการขาย และปิดการขายได้ 

มี Case Study ที่น่าสนใจ คือการที่มีแบรนด์ใช้พนักงานของตัวเองเป็น influencer ช่วยกระจายการสื่อสารไปในวงกว้างเมื่อมีสินค้าหรือแคมเปญใหม่ๆ ปล่อยออกมา

อย่างไรก็ตาม คนไทยชอบความ real ความสนุก ดังนั้นเราในฐานะนักการตลาด จึงควรเปิดโอกาสให้ Influencer นำเสนอสินค้าและบริการในสไตล์ของเขาได้ 

ฟังหัวข้อ Everyone is an Influencer โดยคุณเอกชัย ปาริชาติกานนท์ ได้ที่  https://www.facebook.com/daat.digital/videos/2809408389343368

trending trending sports recipe

Share on

Tags