ผลวิจัยเผยความน่ากังวลของแรงงาน ต่อไปนี้องค์กรจะลงทุนด้าน AI มากกว่าพนักงาน

Last updated on ต.ค. 24, 2023

Posted on ต.ค. 20, 2023

คุณผู้อ่านคิดว่า บริษัทยักษ์ใหญ่กำลังจะลงทุนกับอะไรมากเป็นอันดับหนึ่ง?
ธุรกิจเหรอ? ผิด ❌
คนเหรอ? ก็ยังไม่ใช่ ❌
เพราะคำตอบที่ถูกต้องคือ AI ✅

ณ ปัจจุบัน เราจะพบได้ว่า ปัญญาประดิษฐ์ได้กลายเป็นการลงทุนอันดับหนึ่งสำหรับผู้นำธุรกิจเป็นที่เรียบร้อย

การสำรวจครั้งสำคัญที่จัดทำโดย KPMG นั้น เราจะได้พบกับเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจว่า 2 ใน 3 ของ CEO ในอเมริกา ให้จัดอันดับการลงทุนใน Generative AI มาเป็นอันดับแรก โดยมี CEO ถึง 72% ที่พร้อมลงทุนใน Generative AI มากกว่าจะลงทุนในการพัฒนาทักษะ และความสามารถของพนักงาน แม้จะอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนก็ตาม ซึ่งตัวเลขดังกล่าว ชี้ให้เราเห็นแนวโน้มที่น่ากังวลสำหรับแรงงานมนุษย์

การศึกษานี้ครอบคลุมคำตอบจาก CEO ในอเมริกา 400 คน โดยให้เราเห็นความกระจ่างถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ไปสู่การควบคุมศักยภาพของ AI เพื่อกำหนดอนาคตของธุรกิจที่แน่นอน

“นี่ไม่ใช่การโฆษณาเกินจริง”

พอล นอปป์ (Paul Knopp) ประธานของ KPMG US ได้พูดถึงสิ่งนี้ โดยเขายังบอกอีกว่า “AI จะเริ่มเข้ามามีบทบาท และ CEO ก็จะให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดมากขึ้น”

ยุครุ่งเรืองของ AI ได้รับการกระตุ้นอย่างรุนแรง เพราะการเปิดตัว ChatGPT ของ OpenAI ซึ่งความสามารถของมันได้เข้าครอบงำโลกอย่างรวดเร็ว บริษัทต่าง ๆ จึงลงทุนกับ AI มากขึ้น โดยตัวอย่างบริษัทที่ลงทุนกับ AI ก็คือ Amazon ที่ได้ประกาศการลงทุนมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ในสตาร์ทอัปด้าน AI อย่าง Anthropic, นอกจากนั้น Meta ก็ได้เริ่มเปิดตัว Generative AI เวอร์ชันใหม่สำหรับผู้ลงโฆษณาอีกด้วย

การสำรวจของ KPMG พบว่า 62% ของ CEO คาดหวังว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนด้าน AI ภายใน 3-5 ปี และอีก 23% คาดหวังผลตอบแทนภายใน 1-3 ปี ซึ่งจะเห็นได้ว่า CEO ส่วนใหญ่คาดหวังผลตอบแทนจาก AI อย่างรวดเร็วเลยล่ะ

พอลล์ น็อบ ได้กล่าวอีกว่า การลงทุนด้าน AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ณ ขณะนี้ โดยการลงทุนในปัจจุบันส่วนใหญ่ยังเป็นแค่แนวคิด แต่อีกไม่นาน เราจะได้เห็นตัวอย่างการใช้งาน Generative AI เพิ่มมากขึ้นในอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมาย และมันจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน

โดยตัวอย่างสำคัญขององค์กรที่ทำการปรับตัวไปแล้วเรียบร้อยก็คือ Google เพราะมีรายงานว่า ปี 2022 Google ใช้เงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในการวิจัย และพัฒนาธุรกิจก็จริง ทว่าส่วนสำคัญของงบประมาณที่ลงก็ไปอยู่ที่ AI ล้วน ๆ นอกจากนั้น Google ยังเข้าซื้อกิจการสตาร์ทอัปด้าน AI หลายแห่งในปี 2022 อีกด้วย

ผลของการลงทุนด้าน AI ของ Google ปรากฏชัดในหลาย ๆ ด้าน บริษัทใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ตั้งแต่ Workspace ไปจนถึงตัวที่เห็นอย่างชัดเจนคือ Bard เสิร์ชเอ็นจิ้นที่มีความสามารถในการตอบคำถามที่ครอบคลุมมากขึ้น

อย่างที่เราเห็น แม้ว่า Google จะบุกเบิกนวัตกรรมต่าง ๆ มากมาย แถมยังหันไปลงทุนด้าน AI เป็นหลัก แต่พวกเขาก็ยังคงลงทุนในการพัฒนาทักษะของพนักงาน ด้วยการมีเซสชันในการเทรนนิงพนักงาน ให้สามารถทำงานกับ Generative AI ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้ง Google ยังลงทุนในการจ้างงานงานขึ้นด้วยการเสนอเงินเดือน และสิทธิพิเศษที่ดีให้แก่พนักงานที่มีทักษะด้าน Generative AI

นอกจากนั้น Google ยังจัดให้มีการฝึกอบรมมากมายเกี่ยวกับ Generative AI ทั้งแบบออนไลน์ และแบบเซสชันเจอหน้ากัน โดยเซสชันการฝึกอบรมเหล่านี้ ไม่ได้มีให้บริการแค่สำหรับทั้งพนักงานของ Google อย่างเดียว แต่ยังอนุญาตให้บุคคลทั่วไปเข้ามาอบรมด้วย ซึ่งเซสชันเหล่านี้ช่วยให้เหล่าแรงงานสามารถปรับตัวให้พร้อมใช้เครื่องมือ Generative AI จนทำให้ Google ก้าวนำหน้าในด้านการพัฒนา Generative AI อย่างรวดเร็ว

ความพยายามด้าน AI ของ Google สร้างโอกาสใหม่ ๆ ในโลกธุรกิจ มันกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพลวัตของการจ้างงาน ซึ่งผลกระทบสุทธิต่อการสร้างงาน ยังคงเป็นความท้าทายที่ซับซ้อนสำหรับทั้ง Google และตลาดงานในวงกว้าง


การสำรวจของ KPMG ส่งสัญญาณให้เราเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจมหาศาล เพราะคนที่ใช้ AI ซึ่งเป็นอนาคตของการทำงาน จะกลายเป็นขุมกำลังสำคัญที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีต่อ ๆ ไป เมื่อ AI แพร่หลายมากขึ้น บริษัทต่าง ๆ จะหันมาใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการจ้างงาน ซึ่งการสร้างสมดุลระหว่างความก้าวหน้าของ AI กับความมุ่งมั่นที่จะรักษาทรัพยากรมนุษย์จะเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับธุรกิจในยุคดิจิทัลอย่างแน่นอน


แปล เรียบเรียง: พีรพล สดทรัพย์

ที่มา

trending trending sports recipe

Share on

Tags