ทำงานแทบตาย เจ้านายไม่เคยเห็นผลงาน ทำไงดี?

4 เทคนิคทำให้เจ้านายเห็นผลงานของเรา จากรายการ The ORGANICE

Last updated on ก.ย. 30, 2023

Posted on ก.ย. 28, 2023

การที่เราบอกว่า เราไม่แน่ใจว่าใครทำงานอยู่ มันอาจจะเกิดจากความรู้สึก แต่ความรู้สึกจะส่งผลใหญ่โตได้มากมาย เพราะลูกน้องบางคนอาจจะทำงานเกินเวลา ทุ่มเทให้เรามากมายมหาศาล แต่ถ้าเขาไม่ได้รับคำชื่นชม หรือความใส่ใจ ก็อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่จนนำไปสู่การลาออกได้เช่นกัน

วันนี้เราจะมาคุยเรื่องของ Transparency หรือความโปร่งใส เพื่อทำลายม่านหมอกของความสงสัย ด้วยความโปร่งใส ที่ทำให้เจ้านายมองทะลุมา เห็นถึงสิ่งที่เราทำ งานที่เราทำ ซึ่งจะช่วยลดความสงสัยในตัวลูกน้องได้

เพราะความสงสัยจะทำให้เจ้านายคิดไปไกล ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมชาติ เรามักจะระแวงเรื่องไม่ดีไว้ก่อน เช่น ตอบไลน์ช้าจัง, โทรไปไม่รับ เป็นต้น เวลาที่เรารู้สึกระแวง สิ่งแรกที่เราเกิดความสงสัยคือรางสังหรถึงความไม่ดีอะไรบางอย่าง ดังนั้นเวลาเราเริ่มสงสัยกันเอง ต้องระวังอย่าให้เกิดความระแวงกันเอง เพราะไม่งั้นอาจจะเกิดการ BIAS ภายในองค์กรได้

เราจะมาทำความรู้จักวิธีการที่จะทำให้เจ้านายเห็น เจ้านายรัก เจ้านายหลง เห็นผลงาน เห็นงานของเราประกอบไปด้วย 4 เทคนิค ดังนี้

🎯 1. สร้าง Trust ด้วย Keep in Touch

อย่าทำให้ใครสงสัย แต่เราต้องประกาศให้เจ้านายทราบ เราต้องสร้างความโปร่งใส เพราะการสร้างความโปร่งใสทำให้เจ้านายไม่ข้องใจ ไม่สงสัย คือการเห็นกับตา ได้ยินด้วยหู สัมผัสด้วยมือ ในฐานะลูกน้องเราต้องหมั่นอัปเดตงานให้กับเจ้านายทราบ บางครั้งไม่ต้องถึงขั้นเตรียมพรีเซนต์ก็ได้ แค่เล่าสรุปให้ฟังว่าเมื่อวานเราทำอะไรมา แล้ววันนี้จะทำอะไรบ้าง หรือช่วงนี้มีปัญหาอะไรที่คิดไม่ตกให้เจ้านายช่วยซัพพอร์ตได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น วันนี้ผมเตรียมงานมาอยากให้พี่ feedback หน่อยครับ หรือ เมื่อวานนี้นู๋ไปงานข้างนอกมามีระบบใหม่ ๆ มาอัปเดตพี่ด้วยค่ะ เป็นต้น

ซึ่งการสร้าง Trust มีความสำคัญมากในองค์กร แต่เหนือสิ่งอื่นใด การสร้าง Trust ที่ดีกว่าหัวหน้า มันคือการสร้างความเชื่อมั่น เชื่อใจให้ทีม เพื่อไม่ให้เกิดการดราม่า เม้าท์มอย หรือนินทากัน

โดยคุณโจ้ได้ยกตัวอย่าง Routine การอัปเดตงานที่บริษัท อย่าง Meeting Kanban คือวันนี้ฉันจะทำอะไรบ้าง เพื่อเป็นการอัปเดตระหว่างทีมงาน และเป็นการเห็นภาพรวมของทุกคนในองค์กรว่าทำอะไรกันบ้าง และเราก็ได้อัปเดตให้ทุกคนทราบ ว่าเราทำอะไรบ้าง  

ส่วนอีกประชุมคือ WIP (Work in progress) คือการประชุมระดับโปรเจกต์ เป็นการคุยภาพรวมของ Work in progress ให้เจ้านายทราบว่าโปรเจกต์นี้ยังอยู่นะ ไม่ได้หายไปนะ หรือมีงานไหนที่จะรอ feedback หรือรอ confirm จากเจ้านาย เพื่อเพิ่มโอกาสให้เจ้านาย และน้อง ๆ ในทีมได้ฉายแสงการทำงาน


🎯 2. อย่ากลัว ONE-ON-ONE Meeting

คือช่วงเวลาได้ฉายแสงอย่างแท้จริง โดยส่วนใหญ่แล้วการทำ ONE-ON-ONE Meeting มักจะมีกรอบที่ชัดเจน เช่น คุยกัน 15 นาที หรือ 30 นาที เป็นต้น ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะทำ สิ่งที่ต้องเตรียมมีอะไรบ้าง วันนี้เรามี Chech-list ที่อยากให้ทุกคนลองเตรียมไปทำกัน นั่นคือ 5W2H คือ

👉 WHAT เจ้านายสั่งอะไรเราบ้าง ?
เช่น เจ้านายสั่งเราว่าจะมีการประชุม Town Hall การประชุมใหญ่ของบริษัท ให้เรารับผิดชอบ เป็นต้น

👉 WHY แล้วทำไมต้องมี Townhall ?
เช่น บริษัทมีการแจ้งภาพรวม Direction ใหม่ขององค์กร หรือ อาจจะมีการปรับ C.I แบรนด์ครั้งใหญ่ต้องชี้แจงให้ทีมงานทุกคนทราบ เลยจัดประชุมนี้ขึ้นมา เป็นต้น

👉 WHEN เรื่องนี้ต้องจบเมื่อไหร่ ?
เช่น พี่อยากจะคุยให้จบสิ้นเดือน ต.ค และให้สื่อทราบ พ.ย เป็นต้น

👉 WHO อยากคุยกับใครบ้าง ?
เช่น Town Hall นี้ อยากคุยกับทีมงานทุกคน เป็นต้น

👉 WHERE ที่ไหน ?
เช่น Town Hall นี้ขอนอกสถานที่ และต้องเตรียมอะไรบ้าง

👉 HOW อย่างไร ?
เช่น Town Hall นี้เจ้านานจะขึ้นพูด และขอคนจากเอเจนซีมาขึ้นพูดอีก 1 ท่าน เป็นต้น

👉 HOW MUCH งบประมาณ ?
เช่น งานนี้เจ้านายมีงบให้เท่าไหร่ในการจัดงาน หรือ งานนี้จัดฟรีหรือไม่ เป็นต้น


🎯 3. ให้เจ้านายส่องเราบ้าง

ถ้าไม่มีโอกาสได้เจอหน้า ไม่มีโอกาสได้คุยกันต่อหน้า ยิ่งช่วง WFH อาจจะเจอกันยากขึ้น เพราะเจ้านายก็ติดงานคุยนอกสถานที่มากขึ้น เราก็ไม่ได้อยู่ที่ออฟฟิศ

หนึ่งในตัวอย่างที่ CreativeTalk เราทำงานแบบ ไฮบริด (Hybrid) เราต้องมี Collaboration tools เช่น Tello, Google Doc, Google Sheet, Notion เป็นต้น เพื่อให้เจ้านายเข้ามาอัปเดต Work in Progress และใช้ควบคู่ไปกับการอัปเดต Google Calendar โดยอาจจะแบ่งเลยว่า มี Calendar ที่เราต้องการให้ใครเห็นบ้าง และมี Calendar กลางในการให้ทุกคนเห็นว่าเราทำอะไรอยู่ เราออกไปนอกสถานที่หรือไม่

เหตุผลที่ต้องใช้เครื่องมือเหล่านี้มาช่วย เพราะเจ้านายทุกคนนอกจากจะยุ่งมาก ๆ แล้ว เขาก็มีความเกรงใจ บางครั้งเขาอาจจะว่างกันตอน 3-4 ทุ่ม เราก็เกรงใจจะไปถามน้อง ดังนั้นช่วงเวลาที่เจ้านายพร้อม เขาถึงสามารถเข้ามาดู Collaboration tools เพื่อคอยเช็กอัปเดตน้อง ๆ ในทีมได้สะดวกขึ้น


🎯 4. รุกเจ้านายกลับด้วยคำถาม

การที่เจ้านายไม่ยุ่งเขากับคุณ ไม่ได้หมายถึงเขาไม่ใส่ใจ แต่เขาติดงานนอกสถานที่ หรือติดธุระอื่น ๆ อยู่ ดังนั้นสิ่งที่เราในฐานะลูกน้องทำได้ ลองถามเจ้านายกลับดูว่า พี่มีอะไรให้ช่วยไหมคะ, หรือ พี่ครับนี่สิ้นเดือนและ เดือนหน้าเราอยากทำอะไรดี หรือมีงานอะไรบางต้องเตรียมตัว

ซึ่งการถามคำถามเกี่ยวกับอนาคตเป็นเรื่องที่ดี ทำให้เห็นว่าตัวเรา และบริษัท มองอนาคตเราจะวางแผนอย่างไร เพราะหากเราในฐานะลูกน้องถามจะทำให้เห็นความใส่ใจของลูกน้อง ว่าคนคนนี้ใส่ใจนะ ไม่ได้มองแค่งานตัวเอง แต่มองงานในระดับบริษัท

🎯 #สรุปอยากให้เจ้านายเห็นผลงานต้องทำอย่างไร
👉 สร้าง Trust ด้วยการ Update สม่ำเสมอ
👉 อย่ากลัว ONE-ON-ONE Meeting
👉 สร้าง Workspace ให้เจ้านายติดตาม
👉 ตั้งคำถามถึงแผนในอนาคต

เมื่อเจ้านายเห็นผลงานเรา เขาจะได้พัฒนาตัวเราถูกเช่นกัน


เริ่มต้นวันนี้เพื่อสร้างคุณค่าให้กับตัวคุณ และคนรอบข้าง ลองนำ 4 เทคนิคนี้ไปปรับใช้กันนะ 😊✌️


ทำงานแทบตาย เจ้านายไม่เคยเห็นผลงาน...ทำไงดี? - The ORGANICE 309
เคยรู้สึกไหมว่าทำงานหนัก เหนื่อย แต่เหมือนเจ้านายไม่เห็นผลงานเราในฐานะคนทำงาน จะทำอย่างไรให้เจ้านายเห็นผลงานของเรา?​#CREATIVETALK #TheORGANICE #WorkHard

เรียบเรียง: กิตติภพ ปานล้ำเลิศ

trending trending sports recipe

Share on

Tags