คน Introvert ครีเอทีฟได้ดีกว่าจริงไหม

งานวิจัยเผย คนที่ชอบอยู่คนเดียว จะสามารถครีเอทีฟได้ดีขึ้นถึง 50%

Last updated on ธ.ค. 15, 2023

Posted on ธ.ค. 10, 2023

คุณผู้อ่านเป็นชาวอินโทรเวิร์ตกันหรือเปล่า 🤔

ในยุคนี้ เรามักจะคุ้นเคยกับคำว่าอินโทรเวิร์ต ซึ่งเป็นชื่อเรียกของกลุ่มคนที่ชอบชาร์จพลัง ด้วยการอยู่กับสิ่งที่ชอบในโลกของตน มากกว่าเลือกเจอผู้คนข้างนอก

นักประดิษฐ์ชั้นนำของโลกหลายคนอย่าง บิล เกตส์ (Bill Gates), แลร์รี่ เพจ (Larry Page) หรือกระทั่ง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) เองต่างก็เป็นคนที่ชอบอยู่แบบสันโดษ เพื่อโฟกัสกับโปรเจกต์อย่างเต็มที่

ด้วยเหตุนี้ หลายคนจึงมักคิดว่าคนที่หมกมุ่นในอะไรซักอย่าง จนเป็นเนิร์ดในด้านนั้นจะแตกฉาน และความเนิร์ดเหล่านั้นจะพาให้เขาประสบความสำเร็จ

ถ้าเราเป็นอินโทรเวิร์ต เราอาจจะปฏิเสธเวลาเพื่อนชวนออกไปแฮงค์เอาต์ แล้วไปดื่มด่ำกับกิจกรรมที่ชอบคนเดียว เราสามารถเข้าร้านบุฟเฟต์ได้โดยไม่เขินอายสายตาที่มองมา การอยู่คนเดียวจึงมักเป็นสิ่งที่ชาวอินโทรเวิร์ตเอนจอยอย่างที่สุด

ในการวิจัยของปี 2012 ที่เขียนไว้ในเว็บไซต์ INC กล่าวว่า ‘การใช้เวลาคนเดียว 4 วัน เพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติจะช่วยให้เราสามารถครีเอทีฟวิธีแก้ไขปัญหาได้ดีขึ้นถึง 50%’

แม้แต่สตีฟ วอซเนียก (Steve Wozniak) หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Apple ก็เคยกล่าวไว้ว่า ‘นักประดิษฐ์ และวิศวกรทำงานเหมือนศิลปิน พวกเราชอบการอยู่อย่างสันโดษ เพื่อสร้างผลงานโดยไม่ต้องมีใครมายุ่ง’

อย่างไรก็ตาม บทความในเว็บไซต์ INC ยังกล่าวเสริมว่า การเข้าสู่สภาวะสันโดษเพื่อเพิ่มความครีเอทีฟนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะเคยมีงานวิจัยที่ให้ผู้คนเลือกว่า จะอยู่นิ่ง ๆ 15 นาทีโดยไม่ทำอะไร หรือใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าจิ้มที่ตัวเองตอนรู้สึกเบื่อ ปรากฏว่าผู้ร่วมทดลองส่วนใหญ่นั้นเลือกการจิ้มไฟฟ้าใส่ตัวเองเพื่อแก้เบื่อ มากกว่าจะอยู่เฉย ๆ

✨ หากคุณผู้อ่านคิดว่าตัวเองเป็นอินโทรเวิร์ต ลองดูว่าข้อไหนในนี้ คือลักษณะนิสัยของชาวอินโทรเวิร์ต ✨

👉 นักคิดวิเคราะห์
👉 ชอบคิดมาก
👉 รู้สึกอึดอัดใจเมื่อต้องเข้าสังคม
👉 วิตกกังวล
👉 อารมณ์เชิงลบ
👉 ไม่สู้คน
👉 เลือกความสันโดษมากกว่าการมีปฏิสัมพันธ์

คำตอบคือ ‘ไม่มีข้อใดถูกต้อง’ เพราะมนุษย์เป็นสิ่งที่ซับซ้อนอย่างมาก ฉะนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นคนเก็บตัว หรือคนชอบแฮงก์เอาต์ ก็สามารถปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบข้างได้หลายแบบ รวมถึงหาวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะกับตัวเองได้

อินโทรเวิร์ตไม่จำเป็นต้องอยู่คนเดียวเสมอไป เพราะบางทีเราอาจจะแค่ต้องการพบปะสังสรรค์ในปาร์ตี้เล็ก ๆ อย่างใกล้ชิดกับคนสนิทแค่นั้น นอกจากนั้นบางทีแล้วเอ็กโทรเวิร์ตเองก็มีวันชอบอยู่เฉย ๆ โดยไม่ต้องให้ใครมายุ่งเลยก็มี นั่นทำให้เราไม่สามารถระบุได้เลยว่าจริง ๆ แล้วใครที่มีความคิดสร้างสรรค์กว่ากัน

สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าความคิดสร้างสรรค์ของเรา จะแสดงออกในรูปแบบไหน เพราะมันปรากฏได้ตั้งแต่งานครีเอทีฟไปจนถึงวิธีการแก้ไขปัญหา ซึ่งจุดแข็งหลักอย่างหนึ่งของเอ็กโทรเวิร์ตคือความสามารถในการแสดงพลังของความร่วมมือ เพราะพวกเขาสามารถแสดงความครีเอทีฟออกมาเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีคนอื่นอยู่ด้วย ฉะนั้นแล้ว ‘ทีม’ จึงเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้คนเอ็กโทรเวิร์ตเกิดความครีเอทีฟ ซึ่งต่างจากอินโทรเวิร์ตที่มักจะชอบหาไอเดียด้วยการอยู่กับตัวเอง

ในการศึกษาของบริษัท Intel ในปี 2007 ซึ่งทดลองโดยการให้วิศวกร และระดับหัวหน้า 300 คน ใช้เวลาทำงานประมาณ 4 ชั่วโมงในเช้าวันอังคารโดยปราศจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลปรากฏว่าพวกเขาสามารถทำงานได้ดีขึ้น นั่นทำให้ Intel ได้นำเทคนิคนี้ไปใช้กับทุกคนในองค์กร ดังนั้นจะเห็นได้เลยว่า ไม่ว่าจะเป็นอินโทรเวิร์ตหรือเอ็กโทรเวิร์ตเองก็ตาม เมื่ออยู่ในสภาวะที่เหมาะสมก็สามารถมีความครีเอทีฟได้เช่นกัน

แม้ว่าอินโทรเวิร์ตจะเติมพลังความคิดด้วยการทำงานอยู่คนเดียว แต่เอ็กโทรเวิร์ตก็เติมไอเดียด้วยการใช้พลังจากสังคมรอบข้าง การตีตราว่าคนอยู่ที่ชอบขลุกอยู่กับตัวเองจะเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์มากกว่า จึงเป็นเรื่องที่ผิด


เพราะมนุษย์แต่ละคนก็จะมีวิธีที่เข้าสู่สภาวะที่ครีเอทีฟต่างกัน ดังที่เรากล่าวไปในตอนต้นของบทความว่า แม้บริษัท Apple จะมีสตีฟ วอซเนียกเป็นตัวอย่างของอินโทรเวิร์ตที่เก่งกาจ แต่ Apple ก็มีสตีฟ จอบส์ (Steve Jobs) เป็นตัวอย่างของเอ็กโทรเวิร์ตที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จเช่นกัน


แปล เรียบเรียง: พีรพล สดทรัพย์

ที่มา

trending trending sports recipe

Share on

Tags