ต้องมีอะไร ถึงทำให้คนยอมหันมาใช้ ถอดวิธิคิด Slack ทำอย่างไรให้มีคนใช้งานถึง 12 ล้านคนต่อวัน

Last updated on ต.ค. 31, 2023

Posted on ต.ค. 24, 2023

สงสัยไหม? อะไรคือสิ่งที่ทำให้แพลตฟอร์มหนึ่งมีผู้ใช้งานถึง 12 ล้านรายต่อวัน และผู้คนก็แฮปปี้ที่จะใช้มันคุยงานกันมากกว่าในเฟซบุ๊ก หรือในไลน์

Slack เป็นแพลตฟอร์มการสื่อสาร ที่กลายเป็นอีกหนึ่งตัวตึงของโลกธุรกิจ ซึ่งจะเห็นได้เลยว่าในประเทศไทย หลายองค์กรเองก็ได้หันมาใช้ Slack ในการทำงานเป็นหลักอยู่หลายที่ (ทาง CREATIVE TALK เองก็ใช้อยู่นะ) โดยแรกเริ่มนั้น Slack ถูกพัฒนาเพื่อการสื่อสารแค่ในระดับองค์กร แต่ปัจจุบันแพลตฟอร์มนี้ ถูกนำมาใช้หลายที่ และกลายเป็น Workspaces ของชุมชนคนทำงานทั่วโลก

ชื่อ Slack มาจากวลี ✱ Searchable Log of All Conversation and Knowledge ✱ ที่แปลว่า ‘บันทึกที่สามารถค้นคว้าการสนทนา และความรู้ทั้งหมดได้’ และด้วยการที่ Slack เป็นแพลตฟอร์มการทำงานที่ไม่ยึดโยงกับอะไรนี่แหละ ก็ทำให้มีผู้ใช้งานกว่า 8,000 คนใน 24 ชั่วโมงหลังเปิดตัว

ปัจจุบัน Slack มีผู้ใช้งานมากกว่า 12 ล้านรายต่อวัน ซึ่งอาณาจักรของแพลตฟอร์มนี้ขับเคลื่อนด้วยปรัชญาที่ว่าด้วย “ทำให้การสื่อสาร กับการทำงานร่วมกันง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม” ซึ่งปรัชญานี้เป็นรากฐานของการออกแบบ ไปจนถึงคุณลักษณะต่าง ๆ ภายใน จนทำให้แพลตฟอร์มนี้ประสบความสำเร็จ ซึ่งวันนี้ CREATIVE TALK จะพาไปเจาะลึกองค์ประกอบสำคัญ ที่กำหนดนิยามความสำเร็จของ Slack จนทำให้แพลตฟอร์มนี้มีผู้ใช้งานสิบกว่าล้านคนในทุก ๆ วัน

Asynchronous นิยามใหม่ของการสื่อสาร

ความมุ่งมั่นของ Slack ในการสื่อสารแบบ Asynchronous (การสื่อสารที่ไม่ได้ทำแบบเรียลไทม์ โดยเราสามารถส่งข้อความไว้ แล้วรอให้อีกฝ่ายว่างก่อนแล้วค่อยตอบ) ได้ปฏิวัติวิธีที่ผู้ใช้งานโต้ตอบกัน ซึ่งหมายความว่าสมาชิกในทีมสามารถสื่อสาร และทำงานร่วมกันได้ตามต้องการ โดยไม่ต้องคำนึงถึงไทม์โซนหรือความพร้อมเลย นอกจากนั้น หากเรารู้สึกว่าการแจ้งเตือนนั้นรบกวนมากไป เราก็สามารถเมเนจเวลาเปิด-ปิดได้ ซึ่งการเมเนจเวลาทำงานที่สะดวกสบาย ช่วยให้ผู้ใช้งานสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น ซึ่งความยืดหยุ่นนี้ช่วยให้เราสามารถส่งผ่านข้อมูลได้อย่างราบรื่น แบบไม่มีข้อจำกัดเลยล่ะ


ครอบคลุมการสื่อสารที่หลากหลาย

องค์ประกอบที่สองที่ทำให้ Slack ได้รับความนิยมก็เพราะแพลตฟอร์มนี้ เป็นศูนย์รวมการสื่อสารที่หลากหลาย ซึ่งแนวทางที่ครอบคลุมของ Slack ช่วยให้ผู้ใช้งานรู้สึกสบายใจที่จะใช้งาน ซึ่งช่วยให้เราไม่ต้องใช้แอปนอกเพื่อแชร์ไฟล์ แชตคุยกัน หรือกระทั่งแยกห้องทำงาน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Slack เป็นแพลตฟอร์มการทำงานที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน

การทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกสะดวกสบาย ทำให้แน่ใจได้ว่า เราสามารถปรับแต่งวิธีการทำงานให้เหมาะสมกับตนเองได้ดีที่สุด โดยส่งเสริมวัฒนธรรมของการสนทนาที่เปิดกว้าง ช่วยลดความฟุ้งซ่านในการสลับไปมาหลายแพลตฟอร์ม ซึ่งการจำกัดการแจ้งเตือนของงานให้เหลือเพียงแอปเดียว ช่วยลดการรบกวนสมาธิแนวทางแบบรวมศูนย์นี้ช่วยให้ทีมปรับปรุงขั้นตอนการทำงาน รวมถึงมุ่งความสนใจไปที่งานของตนได้อย่างเต็มที่


ลำดับความสำคัญด้วยการยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง

“เราได้ทำอะไรบางอย่างที่ไม่ธรรมดาให้ซอฟต์แวร์ของธุรกิจ ซึ่งเรามุ่งเน้นในการสร้างเครื่องมือที่ผู้คนชอบใช้อย่างแท้จริง” - อาลี เรย์ล (Ali Rayl) รองประธานอาวุโสฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์

ความมุ่งมั่นของ Slack ในการสร้างเครื่องมือที่ผู้ใช้เพลิดเพลินอย่างแท้จริงนั้น แตกต่างจากแนวทางทั่วไปในการทำซอฟต์แวร์ธุรกิจ เพราะแทนที่พวกเขาจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างรายได้เพียงอย่างเดียว Slack ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างแพลตฟอร์มที่ให้ความรู้สึกเหมือนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมากกว่าเครื่องมือทำงาน

"เราต้องการให้คนทำงานได้รับเครื่องมือที่ลีดเดอร์หรือผู้บริหารใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพต่อการทำงาน"

ผลตอบแทนจากการลงทุน ไม่ใช่สิ่งจูงใจที่ดีพอ ที่จะทำให้ผู้คนใช้บางสิ่งบางอย่างได้ อย่างไรก็ตาม การสร้างโปรดักต์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมากกว่าเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานจะทำให้ผู้คนอยากใช้มันมากขึ้น

ในขณะที่ผู้คนเกลียดการรับอีเมลหลังเลิกงาน แต่ Slack ประสบความสำเร็จในการก้าวข้ามการแบ่งแยกระหว่างการทำงาน และการใช้งานแพลตฟอร์ม ซึ่งเรย์ลได้กล่าวอีกว่า Slack ทำให้เราไม่รังเกียจที่จะเปิดเช็กข้อความในตอนเช้า


ตัวตึงอันดับหนึ่งด้านการหาสิ่งที่ดีที่สุด ด้วยการทำซ้ำอย่างไม่หยุด

การแสวงหาความเป็นเลิศอย่างไม่หยุดยั้งของ Slack ปรากฏชัดจากการอุทิศตนเพื่อการปรับปรุงโปรดักต์อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าแพลตฟอร์มจะเกิดปัญหาอยู่หลายครั้ง แต่แพลตฟอร์มก็ไม่เคยยอมจ่ายสิ่งใดที่น้อยกว่าสิ่งที่ดีที่สุด พวกเขาปรับปรุง และเพิ่มประสิทธิภาพโปรดักต์ให้เกินความคาดหมายของผู้บริโภคอยู่เสมอ

อย่างเหตุการณ์ในปี 2015 นั้น Slack ถูกแฮ็กมาเป็นเวลาเกือบ 4 วัน ซึ่งแฮ็กเกอร์ได้ข้อมูลของบัญชีผู้ใช้ ตั้งแต่ที่อยู่อีเมล รหัสผ่าน หมายเลขโทรศัพท์ ไปจนถึงรหัส Skype นั่นทำให้แพลตฟอร์มจึงได้เพิ่มการตรวจสอบสิทธิ์แบบ Authentication (การล็อกแบบสองชั้น) ขึ้นมา ซึ่งความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศนี่แหละ ทำให้ Slack โดดเด่นในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมของแพลตฟอร์มที่ใช้ทำงาน


ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้จนกลายเป็นแพลตฟอร์มที่ขาดไม่ได้

นวัตกรรมการบูรณาการของ Slack ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พวกเขาปรับปรุงตัวเองให้ดีกว่าเดิมเสมอ เพราะ Slack ไม่กลัวว่าผู้ใช้งานจะไปใช้แอปนอก พวกเขาผสานตัวเอง ด้วยการรวมแอปของพันธมิตรเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ซึ่ง Slack ได้ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ ด้วยการทำให้แพลตฟอร์มสามารถเชื่อมต่อกับแอปพันธมิตรได้ ทำให้จุดยืนของตนแข็งแกร่งขึ้น จนกลายเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับองค์กรสมัยใหม่


ความสำเร็จอันน่าทึ่งของ Slack ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการกำหนดนิยามใหม่ของการสื่อสารในการทำงาน ด้วยปรัชญาที่ว่าด้วยการทำให้การสื่อสาร กับการทำงานร่วมกันง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ทำให้ Slack ก้าวข้ามขอบเขตของเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแบบเดิม ๆ จนกลายเป็นแพลตฟอร์มทำงานที่หลายองค์กรทั่วโลกขาดไม่ได้


แปล เรียบเรียง: พีรพล สดทรัพย์

ที่มา

trending trending sports recipe

Share on

Tags