อยากร่วมงานกับ 'CEO แบบนี้' เปิด 7 เหตุผล ว่าทำไมผู้นำต้องสร้าง Personal Brand ให้ตัวเอง

Last updated on ก.พ. 27, 2024

Posted on ก.พ. 20, 2024

เคยสงสัยไหมว่าทำไม CEO ทั่วโลกถึงต้องสร้าง Personal Brand ให้กับตัวเอง ?

คุณรวิศ หาญอุตสาหะ ผู้นำที่ทำให้แบรนด์ศรีจันทร์ กลับมาทวงบัลลังก์แบรนด์เครื่องสำอางที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ ด้วย Personal Brand ที่เด่นชัดเป็นผู้นำรุ่นใหม่ที่เข้าใจคนรุ่นใหม่ มีเทคนิคการบริหาร, หลักคิดการใช้ชีวิต หรือแม้กระทั่งไลฟ์สไตล์ส่วนตัวเวลาคุณแท็บอยู่กับลูกน้องในทีมว่าเขาคิดอย่างไร ใส่ใจอย่างไร

Elon Musk ทำไมต้องทวีต ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ทำหน้าที่บริหาร ไม่ได้มีความจำเป็นต้องออกสื่อก็ได้ แต่ด้วย Personal Brand โชว์ให้เห็นว่า วิสัยทัศน์ที่ชัดเจน กล้าได้กล้าเสี่ยง ไม่ยึดติดกรอบคิดแบบเดิม ๆ เน้นทำสิ่งใหม่อยู่เสมอ จึงทำให้แบรนด์อย่าง Tesla และ SpaceX ดูเป็นแบรนด์ของคนรุ่นใหม่

Jack Ma (แจ็ค หม่า) ผู้ก่อร่างสร้าง Alibaba หนึ่งในผู้มีอิทธิพลของโลกและเป็นไอดอลขวัญใจคนรุ่นใหม่ ภาพจำของ Personal Brand ที่เด่นชัดคือเป็นคนสู้ชีวิต ทำงานหนัก และต่อยอดเทคโนโลยีใหม่ ๆ ก่อนใครเสมอ

คุณโอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน อีกหนึ่งผู้บริหารคนไทยขวัญใจคนรุ่นใหม่ เป็นอีกหนึ่งคนที่มี Personal Brand ชัดเจนทั้ง 2 ด้าน ในมุมที่เป็นศิลปินเราจะเห็นด้านความสนุก, เฮฮา, กันเอง แต่เมื่อกลับไปโหมดผู้นำองค์กรก็เป็นผู้นำที่ฝากชีวิตได้, มีความตั้งใจสูง, ทำงานหนัก และเข้าอกเข้าใจลูกทีมเสมอ

หรือแม้กระทั่งการซื้อสินค้าสักชิ้น เราก็มักจะดูกันที่ “ความน่าเชื่อถือของแบรนด์”

ยิ่งในยุคโซเชียลด้วยแล้วการจะสนับสนุน หรือซื้อสินค้าสักแบรนด์ ก็มักจะขึ้นอยู่กับตัวผู้นำ ยิ่งผู้นำคนไหนมีทัศนคติที่ดี มี Personal Brand ที่ดูแล้วน่าเชื่อถือ ก็จะยิ่งกระตุ้นให้ผู้คนรู้สึกได้เองว่า แบรนด์นี้น่าสนับสนุน หรือแม้กระทั่งการรับคนเข้าทำงาน พนักงานหลายคนก็มักจะดูกันที่องค์กรนี้ใครเป็นผู้นำ การถูกตัดสินภาพแรกมักจะเกิดขึ้นจากแบรนด์ หรือ Personal Brand จากผู้นำก่อนเสมอ นี่คือเหตุผลสำคัญที่ผู้นำองค์กรต้องพัฒนาแบรนด์ส่วนตัวของตนเอง

มีบทความที่น่าสนใจจาก entrepreneur.com ที่พูดถึง ความสำคัญของการสร้างแบรนด์ โดยเฉพาะผู้นำอย่าง ‘CEO’ กับ 7 เหตุผลว่าทำไม CEO ยุคใหม่ต้องสร้างแบรนด์ส่วนบุคคล (Personal Brand)


🎯 1. ยิ่งคุณมีบานประตูเปิดออกมากเท่าไหร่ โอกาสจะยิ่งมากขึ้น

Personal Brand ของ CEO ไม่ได้สะท้อนแค่เพียงวิธีการทำงานเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงภาพลักษณ์ และการเชื่อมโยงกับผู้คนด้วย โดยคำว่า "ผู้คน" ในที่นี้คือทีมงานที่คุณบริหาร, ผู้ถือหุ้น และลูกค้า และยิ่งในยุคสมัยนี้แบรนด์จะถูกถ่ายทอดให้เห็นชัดมากยิ่งขึ้น ทั้งการที่ CEO ไปพบปะพูดคุยกับคนสำคัญ หรือการแสดงตัวตนผ่านโลกออนไลน์ ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ซึ่งเปรียบเสมือน ‘บานประตู’ ยิ่งใครมีเยอะ ก็เทียบเท่ากับโอกาสที่จะเปิดไปสู่โอกาสใหม่ ๆ

ยิ่งคุณมีบานประตูเปิดออกมากเท่าไหร่ โอกาสต่าง ๆ ก็จะยิ่งเข้ามาคุณมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นความสม่ำเสมอในการสร้าง Personal Brand ของ CEO มีความจำเป็นอย่างมากในทุกวันนี้!


🎯 2. การสร้างความโดดเด่นสำคัญ แต่ต้องจริงใจ!

คุณต้อง Stand out from the crowd เราอยู่ในยุคที่แข่งขันกันด้วย Creativity เราเห็นคอนเทนต์มากมายในทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ดังนั้นการสร้าง Personal Brand ของ CEO เองก็ไม่ได้ต่างกัน เพราะผลลัพธ์สุดท้ายผู้คนจะเป็นคนเลือกว่าเขาจะชอบ หรือไม่ชอบ ซึ่งเอกลักษณ์ที่โดดเด่นนี้เองคือคีย์สำคัญในการสร้าง Personal Brand ของ CEO

คำแนะนำที่ควรควบคู่ไปกับการสร้างความแตกต่างคือ “คุณต้องจริงใจ” ลูกค้าสมัยนี้ฉลาดกว่าที่คุณคิด เมื่อคุณสร้าง Personal Brand ทุกคำพูดที่คุณพูด และทุกการกระทำที่คุณทำมันจะบ่งบอกทัศนคติที่มีต่อผู้ติดตาม หรือลูกค้าของเรา เรื่องนี้สำคัญมาก!


🎯 3. ยิ่ง Personal Brand แข็งแรงมากเท่าไหร่คุณจะได้เปรียบ!

เรามักจะเห็นจากตามหน้าสื่อมากมาย หาก CEO หรือผู้นำคนนั้นโดดเด่น น่าค้นหา มักจะถูกบรรดาสื่อมากมายบุกขอสัมภาษณ์, ทำรายการต่าง ๆ หรือลูกค้าก็อาจจะเห็นคุณจากสื่อและสนใจขึ้นมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นมูลค่า เป็นคุณค่าทั้งสิ้น การมี Personal Brand ที่แข็งแรงจะทำให้คุณได้เปรียบกว่าคนที่ไม่มี!


🎯 4. มีโอกาสในการสร้าง Networking ใหม่ ๆ

ในการทำธุรกิจ Networking หรือการสานสัมพันธ์กับผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะยิ่งคุณรู้จักคนในแวดวงธุรกิจมากเท่าไหร่ โอกาสใหม่ ๆ ก็เกิดขึ้นได้ง่ายกว่า หากเราเคยเห็นตามหน้าสื่อทำไมแบรนด์อาหาร บางครั้งก็ Collaboration กับร้านอาหารด้วยกัน หรือเหนือไปกว่านั้นอาจจะไป Collaboration ร่วมกับร้านเสื้อผ้าก็ยังได้ นี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่าโอกาสใหม่ ๆ

หรือลองคิดภาพตามง่าย ๆ ว่า หากคุณเป็นคนไม่สร้างตัวตน คุณจะเป็นคนที่เสียเปรียบกว่า CEO ที่สร้าง Personal Brand เพราะคนที่สร้างตัวตนอย่างจริงใจ เวลาไปงาน Networking คนกลุ่มนี้มักจะมีคนเดินเข้ามาทำทำความรู้จัก มีคนชื่อชมเขามากมาย และมีโอกาสมากกว่าคนที่ไม่มี Personal Brand


🎯 5. CEO ที่จิตใจแข็งแกร่งและกล้าพูด จะทำให้องค์กรเดินหน้าได้แม้ในภาวะวิกฤต!

เราไม่อาจคาดการณ์ได้เลยว่าเศรษฐกิจในอนาคตจะเป็นอย่างไร แค่จะรักษาผลกำไร และตอบสนองต่อความต้องการผู้ถือหุ้นได้ก็นับเป็นเรื่องที่ท้าทายในทุกวัน แถมผู้บริโภคเองก็เริ่มรัดเข็มขัดกันมากขึ้นเพื่อเซฟการใช้ชีวิต ซื้อสิ่งที่จำเป็นแทนสิ่งที่ฟุ่มเฟือย แต่กลับกันแบรนด์ไหนที่สร้างความเชื่อมั่น และมี CEO ที่มีเสน่ห์และกล้าพูด มี Personal Brand ที่แข็งแรง มักจะได้เปรียบแม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

มีงานวิจัยจาก FTI Consulting ระบุไว้ว่า บริษัทที่มีผู้นำที่แข็งแกร่ง และกล้าพูด ในช่วงแรกของการแพร่ระบาดของโควิด-19 สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมากขึ้น เมื่อแปลเป็นตัวเลขแล้ว นั่นหมายถึงมูลค่าเพิ่มสำหรับผู้ถือหุ้นอีก 260 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาที่หลายคนประสบความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า Personal Brand ไม่ได้หมายความแต่เพียงว่าคุณต้องโด่งดัง แต่มันหมายถึงตัวตนที่คุณจะโชว์ออกมาให้เห็น ถ้าลูกน้อง, นักลงทุน เห็นคุณอ่อนแอ แน่นอนว่าการสร้างความเชื่อมั่นแทบจะไม่เกิดขึ้น แต่กลับกันคนที่มีความมั่นใจ ทำจริง ตัดสินใจได้ในเวลาที่ลูกทีมต้องการคำตอบ นั่นแหละคือ Personal Brand อันล้ำค่าของคุณในฐานผู้นำที่ทำให้เขาไว้วางใจ และฝ่าฟันไปด้วยกัน


🎯 6. Personal Brand ไม่ได้ติดตัวมาแต่เกิด คุณต้องค้นหามันด้วยตัวเอง!

ยังมีผู้นำหลายคนไม่รู้บทบาทของตัวเอง ‘ว่าเราเป็นใครในฐานะผู้นำ’ บางคนจะรู้ว่าตัวเองเป็นสามีที่ดี เป็นภรรยาที่ดีของลูก หรือเป็นคนดีของพ่อแม่ แต่พอพูดถึงสถานะ CEO กลับหาจุดยืน หรือ จุดแข็งของตัวเองไม่เจอ!

การสร้าง Personal Brand คือการค้นหาทักษะ หรือความถนัดของตัวคุณเอง ลองเริ่มจากสิ่งที่ถนัดที่สุด บางคนถนัดสื่อสาร, บางคนถนัดเขียน, บางคนสายดุดัน, บางคนเป็นผู้นำเฮฮาจอย ๆ ยิ่งเรารู้ว่าตัวเองถนัดอะไร สิ่งนี้จะนำพาไปสู่ความมั่นใจ เมื่อคุณทำสิ่งเหล่านี้ไปเรื่อย ๆ แล้วถูกที่ถูกเวลา เมื่อนั้นลูกค้า หรือใครก็ตามจะมองเห็นเองว่า คุณเป็นคนแบบไหน โดยที่เขาไม่ได้มาตัดสินคุณ แต่คุณเป็นคนสร้างตัวตน สร้าง Personal Brand ให้เขาได้รับรู้ว่าคุณเป็นคนแบบไหน


🎯 7. หาก Personal Brand ยิ่งชัดเจนมากเท่าไหร่ จะช่วยลดการแข่งขันลงได้!

การสร้าง Personal Brand ที่แข็งแรง โดดเด่น และน่าเชื่อถือได้มากกว่าใคร แทบจะการันตีได้เลยว่าคุณจะไร้คู่แข่ง เพราะคุณจะโฟกัสสินค้า โฟกัสภาพลักษณ์ โฟกัสความใส่ใจให้กับลูกค้า, พนักงาน, พาสเนอร์ เป็นหลัก รวมถึงตัวแบรนด์ของคุณเองก็ชัดเจนมากขึ้น เพราะผู้นำมีความชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น

ทำไมเวลานึกถึง Apple ผู้คนยังนึกถึง Steve Jobs ทั้ง ๆ ที่ปัจจุบัน Tim Cook กำลังบริหารอยู่ สิ่งนี้ไม่ได้หมายถึง Tim Cook ไม่เก่ง เขาเป็นคนที่เก่งมากในการทำธุรกิจพา Apple ผ่านช่วงเวลาวิกฤตมากมาย จนสามารถสร้างกำไรได้อย่างมหาศาล แต่การที่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะจดจำ Steve Jobs มากกว่า เหตุเพราะภาพจำของคนเรามักจะจดจำ “ในช่วงเวลาที่พีคที่สุด” ซึ่งคล้ายกับกฎ Peak-end Rule เหตุเพราะมนุษย์นั้นมักตัดสินจากประสบการณ์ 2 จุด คือตอนที่พีคที่สุด และตอนจบที่ฟินที่สุด


Steve Jobs ใช้ช่วงเวลาที่ยังมีชีวิตในการสร้างโปรดักต์ที่ดีที่สุดเท่าที่เขาจะสามารถทำได้ แพสชันที่เราเห็น เรื่องราวที่เราได้รับ มันถ่ายทอดตัวตนออกมาอย่างเป็นธรรมชาติโดยที่ Steve Jobs แทบจะไม่ต้องฝืนสร้าง Personal Brand เพราะทุกคนทั่วโลกรู้ถึงความจริงใจ ความทุ่มเท ถึงเหตุผลที่คนคนนึงอยากจะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ ให้เป็นโลกที่น่าอยู่ขึ้น เป็นโลกที่ล้ำสมัยขึ้น และที่สำคัญนี่คือสิ่งที่ Steve Jobs ถนัดที่สุด เชี่ยวชาญที่สุด เป็นตัวตนเขามากที่สุด!


แปล เรียบเรียง: กิตติภพ ปานล้ำเลิศ

ที่มา

trending trending sports recipe

Share on

Tags