หากพูดถึงนวัตกรรม ทำไมถึงต้องนึกถึง Silicon Valley 7 เบื้องหลังจิตวิทยาของผู้สร้างวัฒนธรรมสู่นวัตกรรม

Last updated on พ.ย. 5, 2023

Posted on ต.ค. 31, 2023

คุณรู้จักแบรนด์เหล่านี้หรือไม่

Alphabet (บริษัทแม่ของ Google), Adobe, Apple, Airbnb, Amazon, HP, Intel, LinkedIn, Meta, Microsoft, Netflix, Tesla, Zoom และยังไม่หมดเพียงเท่านี้ แต่ที่น่าสนใจคือ แบรนด์เหล่านี้มีจุดเริ่มต้นร่วมกัน พวกเขาก่อกำเนิดในอาณาจักรที่มีชื่อว่า Silicon Valley

ซิลิคอน วัลเลย์ (Silicon Valley) หรือที่เรารู้จักในนาม ‘เมืองแห่งนวัตกรรม’ ตั้งอยู่ใจกลางรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่มีบริษัทนวัตกรรมเกิดใหม่มากมาย เรียกได้ว่านี่คือศูนย์รวมของบริษัทชั้นนำของโลก และยังคงมี Statup เกิดใหม่ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

แนวคิดขับเคลื่อนให้เป็นบริษัทแห่งนวัตกรรม

มีข้อมูลที่น่าสนใจจากเว็บไซต์ Psychology Today เกี่ยวกับพื้นที่ใน Silicon Valley ถึงการทดลองในด้านจิตวิทยาและนวัตกรรมของคนในพื้นที่ บ่งบอกว่าสภาพแวดล้อมในพื้นที่ และวัฒนธรรมในที่ทำงานคือตัวแปรสำคัญในการส่งเสริมนวัตกรรมที่ล้ำสมัย และมีประสิทธิภาพจนเกิดความสำเร็จในธุรกิจ ซึ่งใช้หลักการจิตวิทยาขั้นพื้นฐานเข้ามาขับเคลื่อนให้กับแต่ละองค์กร ดังนี้

🎯 จุดเริ่มต้นของนวัตกรรมคือการศึกษาที่มีคุณภาพ

Stanford และ UC Berkeley คือ 2 มหาวิทยาลัยชื่อดังของโลกที่ยืนหยัดในฐานะสถาบันบ่มเพาะทางวิชาการและเป็นตัวเร่งให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ มากมาย ตัวอย่างเช่น ผู้ก่อตั้ง Google Larry Page และ Sergey Brin เริ่มต้นการเดินทางของพวกเขาที่ Stanford หรือแม้กระทั่งบริษัท HP แบรนด์เทคโนโลยี ต้นกำเนิดตำนาน "ตั้งบริษัทระดับโลกในโรงรถ" ก็เป็นผลผลิต และแรงบันดาลใจชั้นยอดให้กับนักศึกษาในมหาลัย จนเกิดเป็น Tech Startup มากมายใน Silicon Valley


🎯 ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้วยการตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย

ทุกบริษัทใน Silicon Valley มีความมุ่นมั่นเดียวกันในการตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย โดยมีการวิจัยโดย Teresa Amabile แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแสดงให้เห็นว่าเป้าหมายที่ท้าทายสามารถกระตุ้นแรงจูงใจและความคิดสร้างสรรค์ได้ ด้วยการตั้งเป้าหมายที่ทะเยอทะยาน Silicon Valley จึงใช้พลังของการตั้งเป้าหมายสูงเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการคิดใหม่ และนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่

ดังนั้นคนทำงานใน Silicon Valley มักจะสอดคล้องกับแนวคิด ‘Goal-setting theory’ ทฤษฎีการตั้งเป้าหมายที่ใหญ่เกินตัว เพราะทุกบริษัทมีจุดมุ่งหมาย มุ่งมั่นไปให้ถึง 10 เท่าของมูลค่า คิดใหญ่เกินตัวเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัด


🎯 ตกหลุมรักกับปัญหา และหาวิธีแก้ปัญหา

เพราะคนเหล่านี้ตกหลุมรักกับปัญหา การให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจปัญหาของลูกค้าสำคัญมาก นี่ถือเป็นหัวใจสำคัญ และเป็นรากฐานมาจากหลักจิตวิทยา Curiosity and Problem-Solving คือความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นและการแก้ปัญหา การยอมรับแนวคิดนี้สามารถนำไปสู่วิธีการใหม่ ๆ และวิธีคิดที่สร้างสรรค์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งช่วยส่งเสริมความอยากรู้อยากเห็นเพื่อแก้ปัญหา โดยให้ความสำคัญกับการสำรวจปัญหา Silicon Valley จึงสร้างสภาพแวดล้อมทางจิตวิทยาที่เหมาะสมสำหรับการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ


🎯 ทดสอบ และตรวจสอบความถูกต้องของแนวคิด

วัฒนธรรมของ Silicon Valley คือการทดลอง และตรวจสอบความถูกต้องของแนวคิดภายในทีม โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการทดสอบแนวคิดอย่างรวดเร็ว ที่ต้องแข่งกับเวลา และ PoC หรือ (Proof of Concept) กระบวนการทดสอบไอเดียธุรกิจ เสมือนทำการทดลองเล็ก ๆ เพื่อทดสอบความเป็นไปได้ ว่านวัตกรรมชิ้นนี้จะสามารถไปต่อได้หรือไม่ เราจะเห็นได้เลยว่าบริษัทใน Silicon Valley ให้ค่ากับการทดลอง และการวิจัยมาก ๆ เพราะนวัตกรรมเกือบทุกชิ้นจะเกิดขึ้นผ่านกระบวนการทดสอบซ้ำไปซ้ำมาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ


🎯 ล้มเหลวอย่างรวดเร็วเพื่อประสบความสำเร็จเร็วขึ้น

วัฒนธรรมการยอมรับความล้มเหลวของ Silicon Valley สอดคล้องกับการวิจัยเกี่ยวกับความยืดหยุ่นและการเรียนรู้จากความผิดหวัง แนวทางนี้ส่งเสริมความสามารถในการปรับตัวและความทรหดอดทนที่จำเป็นในการรับมือกับความไม่แน่นอนเมื่อไล่ตามเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ โดยการมองความล้มเหลวเป็นก้าวสำคัญสู่ความสำเร็จ Silicon Valley จึงใช้พลังของความยืดหยุ่นทางจิตวิทยาเพื่อขับเคลื่อนการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง


🎯 ปลูกฝังความปลอดภัยทางจิตใจ

การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยทางจิตใจจะส่งเสริม ‘ความไว้วางใจและการสื่อสารอย่างเปิดเผย’ เมื่อคนเรารู้สึกปลอดภัย ก็จะกล้าแสดงความคิดเห็น และช่วยลดความกังวลจากการทำผิดพลาด ซึ่งวิธีคิดนี้จะส่งเสริมนวัตกรรมและบรรยากาศการทำงานร่วมกัน การวิจัยแสดงให้เห็นว่าความปลอดภัยทางจิตวิทยาเป็นรากฐานของการคิดที่เป็นนวัตกรรมและประสิทธิภาพของทีมที่สูงขึ้น


🎯 มีผู้สนับสนุนที่พร้อมซับพอร์ตสตาร์ทอัพอย่างเต็มที่

Incubators และ Accelerators อย่าง Plug and Play, Y Combinator และ Techstars ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งการเติบโตของสตาร์ทอัพ พวกเขาไม่เพียงแต่เสนอการสนับสนุนทางการเงินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการให้คำปรึกษา, ความเชี่ยวชาญ และการเข้าถึงเครือข่ายที่มีค่า ซึ่งช่วยให้สตาร์ทอัพเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมไปถึง Silicon Valley เต็มไปด้วยบริษัทร่วมลงทุนจำนวนมาก ซึ่งกระตือรือร้นที่จะลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีแนวโน้มดี การเข้าถึงทางด้านการสนับสนุนจึงกลายเป็นบ่อเกิดของนวัตกรรมและการขยายตัว ดังที่เห็นในเส้นทางการระดมทุนของบริษัทต่าง ๆ เช่น Google, Uber และ Airbnb


นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการสร้างวัฒนธรรมในพื้นที่ Silicon Valley ที่ทุกองค์กรยึดมั่น และสร้างผลงานใหม่ ๆ ออกมามากมาย มีตัวแปรสำคัญมากมาย ในการเร่งสร้าง ผลิตนวัตกรรมออกมาได้อยู่เสมอ 😊✌️


แปล เรียบเรียง: กิตติภพ ปานล้ำเลิศ

ที่มา

trending trending sports recipe

Share on

Tags