ย้อนรอย ผลิตภัณฑ์ของ Microsoft ที่ไม่ได้ไปต่อ

Last updated on พ.ค. 8, 2023

Posted on เม.ย. 18, 2022

เมื่อพูดถึง Microsoft คุณนึกถึงอะไร

บริษัท Microsoft เป็นบริษัททรงอิทธิพลและสร้างนวัตกรรมให้กับโลกมากที่สุดแห่งหนึ่ง ที่เริ่มจากการพัฒนาระบบปฏิบัติการ DOS และ Windows อันโด่งดัง (ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปที่คำถามตอนต้น หลายคนต้องนึกถึง Windows แน่ๆ) จนปัจจุบันต่อยอดไปยังแขนงอื่นๆ อย่าง เกม หุ่นยนต์ การทำเกษตร AR (Augmented Reality) และอื่นๆ อีกมากมาย เป็นการตอกย้ำว่า Microsoft จึงยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทที่พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับโลกเสมอมา 

แต่บางโครงการ Microsoft เองเมื่อเห็นว่าไม่ประสบความสำเร็จ ก็ไม่ทู่ซี้ไปต่อ เรามาลองดูกันว่ามีโปรเจ็คไหนบ้างที่ไม่ได้ไปต่อ เพราะอะไร


“Killed By Microsoft”

กว่าจะมีวันนี้ Microsoft เองก็ลองผิดลองถูกมาหลายอย่าง ทำให้รายการที่ไม่ได้ไปต่อของ Microsoft นั้นยาวเป็นหางว่าว หากคุณอยากรู้ลองไปที่ https://killedbymicrosoft.info/ ซึ่งหน้าเว็บทำได้น่ารักมาก ด้วยการแต่งภาพเหนือข้อความแต่ละผลิตภัณฑ์ด้วยรูป “ป้ายฝังศพ” พร้อมระบุปีที่เริ่มใช้จนถึงปีที่สิ้นสุดการใช้งาน รับรองว่าถ้าคุณได้เปิดผ่านลิสต์รายการลองผิดเหล่านั้นกว่า 70 รายการของ Microsoft แล้ว คุณจะได้หวนรำลึกถึงหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่เคยโด่งดังและนิยมในสมัยก่อน บางอันคุณอาจคุ้นเคย แต่บางอันคุณอาจเห็นแล้วคิดว่า “เอ๊ะ เคยมีเจ้านี่ด้วยเหรอ” 

อย่างไรก็ตาม ลิสต์ของผลิตภัณฑ์ที่ปรากฏในเว็บ  “Killed By Microsoft” นั้น ไม่ได้บันทึกทุกโครงการที่โดนแช่แข็งไว้นับตั้งแต่บริษัทก่อตั้งในปี 1975 หนึ่งในนั้นที่ไม่ปรากฏในลิสต์ คือ นวัตกรรมอย่าง “TAY” AI เหยียดผิวของ Microsoft ที่สร้างความปั่นป่วนในโลก Twitter ไว้เมื่อปี 2016 รวมถึงหน้าตาเมนูที่เรียงเป็นกล่องอย่าง Microsoft 8 ที่โดนยี้จน Microsoft ต้องเอารูปแบบปุ่ม Start แบบเดิมกลับมา 


นวัตกรรมที่ไม่ได้ไปต่อ แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจต่อได้

ถึงแม้จะมีหลายผลิตภัณฑ์โดนทิ้งให้เคว้งคว้าง แต่หลายคนก็ยังยกยอให้ Microsoft เป็นผู้มาก่อนกาล ตัวอย่างเช่น “Comic Chat” (ปี 1996 – 1999) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมแชทสำหรับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แต่แทนที่จะแชทกันแล้วเป็นข้อความธรรมดาๆ Comic Chat เปลี่ยนข้อความที่พิมพ์ให้กลายเป็นเหมือนคำพูดของตัวการ์ตูนในหนังสือการ์ตูน ซึ่งไม่ได้มีแค่ตัวหนังสือ แต่มีรูปภาพคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูน พร้อมท่าทางและสีหน้าประกอบ (คุณสามารถทำให้ตัวการ์ตูนของคุณหัวเราะ หากคุณพิมพ์ lol ลงไปด้วย) แต่ถึงแม้ว่า Comic Chat จะเอาชนะ AIM (AOL Instant Messenger) ซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยนั้นไม่ได้ แต่ไอเดียของ Comic Chat ก็ไปปรากฏเป็น Memoji ของ Apple ที่ทำเป็น Avatar ต่างๆ ที่เล่นได้ใน iMessage แทน

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ล้ำเกินยุคของ Microsoft คือ “Kinect” กล้องตรวจจับร่างกายซึ่งถูกติดตั้งไว้กับเครื่อง Xbox เพื่อสั่งการด้วยเสียง ซึ่งถึงแม้ว่าผลิตภัณฑ์นี้จะไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ Microsoft ตั้งใจไว้ แต่เทคโนโลยีนี้ก็กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับ iPhone ในการสร้างเป็น Memoji ที่เพิ่งกล่าวถึงไป รวมถึงแว่น HoloLens ของ Microsoft เอง 


กำจัดจุดอ่อน

นอกจากนี้ถ้าคุณดูในลิสต์ดีๆ จะพบจุดอ่อนของ Microsoft อย่างโทรศัพท์มือถือรุ่นต่างๆ ที่ต้องล้มหายตายจากไป อย่าง Zune (ปี 2006 – 2015) และ Microsoft Lumia (จริงๆ แล้วเป็นของ Nokia แต่ Microsoft เปลี่ยนชื่อหลังจากซื้อบริษัทมา) ที่เปิดตัวในปี 2011 แต่เลิกผลิตในปี 2017 เพราะแทบจะแชร์ส่วนแบ่งในตลาด Smartphone ไม่ได้เลย ใดๆ ก็ตามไม่มีอะไรน่าหดหู่ใจเท่า “Kin” ผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวได้เพียง 48 วันก็เลิกขาย ถึงแม้ว่าจะใช้งบไปกับการพัฒนามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายได้เพียง 503 เครื่อง (ภายใน 48 วันนั้น)


ถึงแม้ว่า Microsoft จะสู้คู่แข่งอย่าง Apple ในเรื่องการพัฒนาโทรศัพท์มือถือไม่ได้ หรือว่ายังมีอีกหลายนวัตกรรมที่ไม่ได้ไปต่อ แต่จุดแข็งหลักของ Microsoft อย่าง Microsoft Office และระบบ Cloud Service ก็ยังช่วยให้บริษัทเติบโตและสร้างรายได้มหาศาลกลับคืนมา เพราะต่อให้ Microsoft ยังไม่สามารถซื้อใจเหล่าผู้บริโภคทั่วไปได้ แต่ Microsoft ก็สามารถเอาชนะใจผู้จัดการฝ่าย IT ได้เสมอมา 


ที่มาของข้อมูล

trending trending sports recipe

Share on

Tags