ทิ้งการปฎิบัติการแบบเดิมๆ เมื่อ Intuitive Operating Model จะช่วยคุณผ่านช่วงเวลาผันผวนได้

Last updated on พ.ค. 8, 2023

Posted on เม.ย. 4, 2022

อนาคตของบริษัทคุณจะเป็นอย่างไรในอีก 5 ปี 10 ปี ไม่มีใครฟันธงบอกได้ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาภายนอก ซึ่งคุณควบคุมไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความต้องการของลูกค้า รูปแบบการทำตลาดที่แปรผันไปมา หรือเหตุการณ์อื่นๆ ที่เข้ามาทำให้การทำธุรกิจสะดุด 

แต่หากอยากประสบความสำเร็จ ทุกธุรกิจจะต้องมีการ “คาดการณ์” ล่วงหน้า และ “ลงมือปฏิบัติ” ให้ถูกจังหวะเพื่อเอาชนะคู่แข่งให้ได้

การรวบรวมทั้งสติ ปัญญา และประสบการณ์ให้สามารถ “ตัดสินใจ” เลือกถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนหรือ ถอนทุน การเพิ่มหรือลดราคาสินค้าและบริการ หรือการเปลี่ยนฐานการผลิตหรือจะพึ่งระบบ Supply Chain ทั้งหมดนี้อาศัยการตัดสินใจอย่างรวดเร็วทั้งสิ้น แต่การจะทำเช่นนั้นได้ต้องอาศัย “รูปแบบการปฏิบัติการโดยวิจารณญาณ” (Intuitive Operating Model) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการตัดสินใจอย่างรวดเร็วนั้นถูกต้องและถูกทิศ

รูปแบบการปฏิบัติการโดยวิจารณญาณ (Intuitive Operating Model) คือ การเอากลุ่มก้อนความรู้มาผนวกกับกระบวนการอัตโนมัติทางธุรกิจซึ่งอาศัยเทคโนโลยีและข้อมูล (Technology & Data) เมื่อรวมกันแล้วจะช่วยให้องค์กรของคุณกลายเป็นองค์กรที่มีความยืดหยุ่นสูงพร้อมปรับตัวแบบทันทีทันควัน 


5 ปัจจัยทางตลาดที่สนับสนุนรูปแบบการปฏิบัติการโดยวิจารณญาณ

ข้อมูลจำนวนมหาศาล 

ภายในปี 2025 โลกเราจะปั่นข้อมูลมากกว่า 463 Exabyte (เท่ากับ 463 แล้วตามด้วย 0 อีก 18 ตัว) ในทุกๆ วัน ทุกๆ การปัดเลื่อนหน้าจอ คอมเม้นต์ คลิ๊ก การก้าวเดิน อุณหภูมิ กลิ่น หรือ จังหวะการเต้นของหัวใจ ทั้งหมดนี้ที่ถูกบันทึกไว้ผ่านเซนเซอร์ คือ ข้อมูลที่สามารถบ่งบอกได้ว่าบุคคลนั้นอยากได้ ต้องการ ชอบ หรือ ไม่ชอบอะไร ข้อมูลเหล่านี้ปลดล็อกความคิดและความต้องการที่ซ่อนอยู่ของลูกค้าได้  


การเพิ่มขึ้นของระบบนิเวศธุรกิจในยุคดิจิทัล

Cloud เป็นมากกว่าแหล่งเก็บข้อมูลที่คอมพิวเตอร์จะเอามาใช้ตอนไหนก็ได้ แต่มันสร้างความเป็นไปได้ในการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบระหว่างพาร์ทเนอร์ คู่ค้า ลูกค้า แอปฯ ผู้ให้บริการด้านข้อมูล หรือแม้กระทั่งแหล่งข้อมูลทางเทคโนโลยี ทำงานถึงกันและกันหมด ไม่ว่าจะสร้างหรือปรับเปลี่ยนรูปแบบใดก็ได้ตามต้องการ ทำให้การทำธุรกิจคล่องตัวและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น


5G ทุกหนทุกแห่ง

เมื่ออุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้แล้ว ทำให้เส้นแบ่งระหว่างโลกแห่งความจริงกับโลกดิจิทัลแทบจะมลายหายไป และยิ่งด้วยความเร็ว แรง และเสถียรของอินเตอร์เน็ตระดับ 5G ยิ่งทำให้ธุรกิจ “จับ” ข้อมูลได้รวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้นแบบ Real-time จากนั้นก็สามารถประเมินและคาดเดาพฤติกรรมผู้บริโภคได้แบบทันทีเช่นกัน ตั้งแต่การผ่าตัดโดยหุ่นยนต์ โรงงานที่ดูแลซ่อมบำรุงตัวเองได้ ไปจนถึงรถยนต์ไร้คนขับ อินเตอร์เน็ตแบบ 5G เอาอยู่ทุกสถานการณ์ 


ระบบที่เรียนรู้ได้เอง

ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลกเลยที่เราสามารถสร้างเครื่องมือที่เรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง ระบบ Machine Learning ที่จับแพทเทิร์นอะไรบางอย่างของข้อมูลและวิเคราะห์เป็นข้อมูลเชิงลึก โดยที่ไม่ต้องสั่งว่าต้องทำอะไรบ้าง ตัวอย่างที่เราเห็นก็เช่น ระบบของ Netflix ที่แนะนำรายการต่างๆ ให้เราโดยอัตโนมัติ หรือ แม้กระทั่งการจับคู่คนขับกับคนนั่งของ Uber ในต่างประเทศ โปรแกรมต่างๆ เหล่านี้ใช้ประโยชน์จาก Machine Learning ในการเรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภค และประเมินความต้องการในอนาคตของผู้บริโภคได้ 


การให้ความสำคัญกับวัตถุประสงค์

วัตถุประสงค์จะเป็นตัววัดความสัมพันธ์ของธุรกิจ องค์กรที่มีการตัดสินใจได้แบบฉับไวมักจะเชื่อมโยงกับโลกภายนอกมากกว่าแค่กรอบทางธุรกิจเดิมๆ ของตน การใช้เครื่องมืออย่างเซนเซอร์, ข้อมูล, AI และการวิเคราะห์ จะช่วยให้คุณรู้ทุกเรื่องที่ธุรกิจของคุณต้องรู้ เอาไปใช้สร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมงานของคุณ สร้างเครือข่ายลูกค้า สร้างสังคมที่เชื่อมโยงถึงกัน หรือแม้กระทั่งช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมของโลกได้ด้วย วัตถุประสงค์ของบริษัทจึงถือเป็นการประกาศกร้าวต่อสาธารณชนให้รู้ถึงผลกระทบดีๆ ที่บริษัทมีต่อสังคม การปฏิบัติการโดยวิจารณญาณจะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายนั้นได้ง่ายขึ้น


ดังนั้นรูปแบบการปฏิบัติโดยวิจารณญาณจึงช่วยให้องค์กรของคุณพร้อมปรับตัวยืดหยุ่นไปกับทุกเหตุการณ์ความเปลี่ยนแปลงบนโลก ไม่ว่าจะเผชิญกับความท้าทายรูปแบบใด ธุรกิจของคุณก็สามารถตัดสินใจได้ถูกต้อง เฉียบคม ในเวลาอันรวดเร็วเหนือคู่แข่งได้ และนี่คือ “การคาดการณ์” และการ “ลงมือปฏิบัติ” ให้ถูกจังหวะที่ทุกธุรกิจต่างก็ต้องการในช่วงเวลาอันผันผวนนี้ 


ที่มาของข้อมูล – How To Be Relevant Now And Forever: An Intuitive Operating Model

trending trending sports recipe

Share on

Tags