สัมภาษณ์ หมอคิด นพ.ศุภชัย ปาจริยานนท์ ถึงเบื้องหลังการก่อตั้ง RISE

Last updated on มี.ค. 1, 2023

Posted on ก.ย. 13, 2019

หลายคนที่อยู่ในวงการ Startup หรือผู้ประกอบการ ต้องเคยได้ยินชื่อ “RISE” หรือ สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรระดับภูมิภาค สถาบันที่เข้ามาสนับสนุนกลุ่ม Startup และองค์กรขนาดใหญ่ให้เกิดการทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ผลักดันให้องค์กรเติบโต รวมทั้งยังเป็นเจ้าภาพจัดงาน Tech Conference ระดับประเทศที่จัดขึ้นทุกปีอย่าง Corporate Innovation Summit และ RISE Innovation Week 

Creative Talk จึงอดไม่ได้ที่จะหาโอกาสพูดคุยกับ หมอคิด หรือ นายแพทย์ศุภชัย ปาจริยานนท์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RISE ถึงที่มาที่ไป แรงบันดาลใจ และเป้าหมายขององค์กรที่เรียกได้ว่าเป็น Big Impact ให้กับประเทศไทยอย่างมาก อีกทั้งในตอนสุดท้าย หมอคิด ยังได้มาเผยถึงความน่าสนใจของคอนเซปต์และไฮไลท์งาน RISE Innovation Week 2019 ที่กำลังจะถึงนี้ รับรองว่าเหล่า Startup และ Tech Talent ไม่ควรพลาด

บทความนี้ถอดจาก Podcast Morning Call : RISE Innovation week กับ นายแพทย์ศุภชัย ปาจริยานนท์
ติดตามฟังได้ที่ : SOUNDCLOUD, Spotify, PodBean และ Apple Podcasts

หมอคิด : สวัสดีครับ ผมคิด ศุภชัย ปาจริยานนท์ หลาย ๆ คนเรียกว่า หมอคิด เพราะจริง ๆ เป็นหมอ ที่เสื่อมสมรรถภาพทางแพทย์แต่มีสมรรถภาพอย่างอื่น คือเรียกว่าเป็นสมรรถภาพที่เข้าไปช่วยองค์กรให้เขาเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรได้ ปัจจุบันทำงานที่บริษัท RISE หรือเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า “Corporate Innovation Power House” เป็นเหมือนขุมพลังที่จะเข้าไปช่วยองค์กรให้เร่งสปีดตัวเองได้

คำว่า “เร่งสปีด” หมายถึงอะไรครับ?

หมอคิด : เป้าหมายของ RISE คือการช่วยเพิ่ม 1% GDP ให้กับประเทศไทยและ South East Asia ซึ่งเป้าหมายนี้เกิดจากความคิดที่ว่า มันจะมีวิธีการไหนบ้างที่ช่วยเพิ่มนวัตกรรมให้กับองค์กร เพราะจริงแล้วการที่ประเทศจะขับเคลื่อนเดินหน้าไปได้นั้นไม่ได้มีผลมาจากแค่บริษัท Startup แต่ต้องอาศัยบริษัทขนาดใหญ่ด้วย เพราะการขยับเพียงนิดเดียวของเขา อาจหมายถึงการขยับของทั้งประเทศ ดังนั้นเราก็เลยมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้สามารถช่วยเร่งสปีดบริษัทใหญ่ให้ก้าวหน้าด้วยนวัตกรรมได้

หมายความว่า การที่บริษัทใหญ่เคลื่อนตัวได้ด้วย Innovation จะทำให้เกิด Big Impact?

หมอคิด : ใช่ครับ 1% ของ GDP คือการทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านคน เพราะ GDP ประเทศไทยประมาณ 4 แสนล้าน ซึ่ง 1% คือ 4,000 ล้าน และ GDP รายหัวของคนไทยประมาณ 150,000 บาทต่อปี (5,000 เหรียญ) เฉลี่ยแล้วสามารถทำให้เกิดการจ้างงานได้ประมาณ 8-9 แสนอัตรา ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าเกิด Impact ค่อนข้างมากทีเดียว

บริษัท RISE สามารถทำให้เกิด Impact ได้อย่างไร?

หมอคิด : สำหรับที่ RISE เราทำอยู่ด้วยกัน 4 อย่าง คือ หนึ่ง Global Accelerator Program เป็นการหา Startup จากทั่วโลกและให้เข้าไปช่วยดูการทำงานในองค์กร โดยเลือกประเภทของ Startup ให้ตรงกับอุตสาหกรรมนั้น ๆ ซึ่งเป็นการช่วยเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรจากภายนอก 

อย่างที่สอง Intrapreneur School คือการทำให้คนในองค์กรกลายเป็น “นวัตกร” ซึ่งไม่ใช่แค่การทำให้บุคลากรมี Mindset ใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ช่วยให้บุคลากรสามารถลงมือทำจริงได้ด้วย ซึ่งคำว่า Intrapreneur มาจากการเล่นคำว่า Entrepreneur (ผู้ประกอบการ) โดยการเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น Intra- ที่หมายถึง “ภายใน” จุดประสงค์ของการทำ Intrapreneur คือการฝึกฝนบุคลากรในบริษัทให้เป็นผู้ประกอบการและสามารถสร้างบริษัท Startup ภายในองค์กรได้ ซึ่งในอนาคตอาจมีการแยกตัวออกมาตั้งบริษัทลูก ซึ่งบุคลากรนั้น ๆ จะเป็นผู้ที่เอานวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาช่วยเพิ่มให้องค์กรก้าวหน้าไปได้เร็วขึ้น

อย่างที่สามคือ Venture Builder/Investment เพราะแม้จะเลือกบริษัท Startup ที่ดีที่สุดมาให้กับองค์กร แต่ในการฝึกฝนพนักงานนั้นจำเป็นต้องใช้ระยะเวลานาน ผู้บริหารบางคนอยากได้อะไรที่เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว RISE จึงช่วยทำให้เกิดการร่วมลงทุน โดยการให้บริษัท Startup นั้นเข้ามาทำงานร่วมกับองค์กรเลย และ RISE ยังมีหน้าที่ดูแลความสัมพันธ์ของ Startup และองค์กร เพื่อให้การร่วมงานและการสื่อสารเป็นไปได้อย่างราบรื่น

และสุดท้ายคือ งาน Conference เพื่อให้เกิด Impact ถึงปีละ 100,000 คน เราจึงจัดงานสัมมนาเกี่ยวกับ Corporate Innovation ขึ้นมา นั่นก็คืองาน Corporate Innovation Summit และ RISE Innovation Week โดยทั้งสอง Conference นี้ก็มีจุดประสงค์แตกต่างกันไป

Corporate Innovation Summit จุดประสงค์ของงานนี้เป็นการเน้นไปที่ผู้บริหารระดับสูง เป็น Workshop ลงมือทำ เพราะผมเชื่อว่าการลงมือทำจะทำให้เราเปลี่ยนแปลง เพราะวันนี้ผู้บริหารเขาไม่ได้อยากรู้ว่าทำไมเขาต้องเปลี่ยนแปลง แต่อยากรู้ว่าเปลี่ยนแปลงต้องทำอย่างไร เพราะฉะนั้นงานนี้เราเลยให้เขาได้มาลงมือทำ เพื่อให้กลับไปทำได้

อีกส่วนคือ RISE Innovation Week ทุกวันนี้ Tech Talent หรือคนที่เข้าใจเรื่อง Innovation Startup และเทคโนโลยีใหม่ ๆ หายากมาก เพราะฉะนั้นงานนี้จึงจัดขึ้นเพื่อให้บริษัทขนาดใหญ่ได้มาเจอกับเหล่า Top Talent ที่มีความสามารถจากทั่วโลก โดยคอนเทนต์ภายในงานจะต้องน่าสนใจพอที่จะดึงดูดให้คนเก่ง ๆ เข้ามาฟังได้ โจทย์ในการจัดงานจึงต้องเป็นธีมที่เป็นเรื่อง Up and Coming อย่างเช่นในปีนี้ก็เป็นธีมของ Deep Tech ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ AI, Robotic, Quantum หรือ IoT เป็นต้น

หมอคิด ยังเผยกับเราอีกว่า งาน RISE Innovation Week 2019 ปีนี้จะไม่เหมือนที่ผ่านมา โดยมีไฮไลท์เด็ดของงานคือ 3T ได้แก่ Tour Talent และ Talk

rise innovation week2019

Tour คือการสลับบทบาทระหว่าง Startup และ CEO โดยการพา Tech Talent ไปเยี่ยมชมองค์กร เพื่อให้ CEO ขององค์กรนั้นบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการหรือสิ่งที่จะทำในอนาคต จากนั้นให้ผู้ร่วมงานเสนอสิ่งที่พวกเขาสามารถช่วยองค์กรได้

Talent คือการพาผู้ร่วมงานไปคุยกับกลุ่มคนที่ทำงานเกี่ยวกับนวัตกรรมในองค์กรในรูปแบบ Speed Dating เป็นเวลา 15 นาที และประเมินว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถร่วมงานกันได้หรือไม่ ถ้าหากการสนทนาเป็นไปได้อย่างราบรื่น ผู้ร่วมงานสามารถส่งข้อมูลของพวกเขาให้กับองค์กรได้ทันที

Talk คือการจัดงานสัมนาเกี่ยวกับ Deep Technology ซึ่งหัวข้อในการสัมนาแบ่งเป็น 5 หัวข้อแตกต่างไปตามธีมงานของแต่ละวัน ได้แก่ collaborate innovation, Robotics & IoT, Quantum Technology, Artificial Intelligence และ Exponential Technologies

สุดท้ายนี้ อีกประเด็นที่เราคิดว่าน่าสนใจอย่างมากกับเทรนด์เทคโนโลยีที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่จะมีขึ้นใน RISE Innovation Week 2019 นี้ด้วย เราจึงได้สัมภาษณ์ถึงมุมมองของหมอคิดเกี่ยวกับ Robotic IoT และ Quantum Technology ว่าจะเร็วเกินไปไหมสำหรับประเทศไทย? หมอคิดได้ให้คำตอบกับเราไว้ว่า

หมอคิด : ขึ้นอยู่กับคนที่มาฟังว่าอยากเรียนรู้ในขั้นไหน เพราะผู้ร่วมงานมีจุดประสงค์หลากหลาย เช่น เรื่อง Quantum บางคนเข้ามาเพื่อเรียนรู้ว่า Quantum คืออะไร หรือบางคนเข้ามาเพื่อดูว่าจะปรับตัวหรือประยุกต์ใช้กับองค์กรยังไงเมื่อมีเทคโนโลยีประเภทนี้มากกว่า

ในอนาคตเราคงได้เห็นการเติบโตขององค์กรขนาดใหญ่ที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยเดินหน้าไปได้ไกล ซึ่งตรงนี้ RISE จึงเป็นเสมือนขุมทรัพย์และพลังผลักดันให้เหล่า Talent และองค์กรต่าง ๆ จับมือทำงานร่วมกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่หวังไว้ได้

งาน RISE Innovation Week 2019 จะจัดขึ้นวันที่ 23 – 27 กันยายน 2562 ที่ The Society ตึก Gaysorn Tower ทุกคนที่ซื้อบัตรเข้าร่วมงาน (ราคา 1,500บาท) จะได้รับสิทธิทดสอบความรู้ทางด้านดิจิตอลโดย Kincentric ฟรี (ราคา 7,500 บาท) หลังจากที่ได้รับผลการสดสอบแล้ว จะมีการสัมนาเกี่ยวกับวิธีแปลผลการทดสอบ เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้นำไปใช้พัฒนาตัวเองและองค์กรได้อีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจสำรองที่นั่งได้แล้วที่ Eventbrite.com

trending trending sports recipe

Share on

Tags