อ่านรูปภาพไว วิเคราะห์ได้หลายภาษา สรุปฟีเจอร์สุดปัง ดุดัน ไม่เกรงใจใครของ GPT-4

ช่วงนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องเห็นข่าวของ ChatGPT กันเต็มหน้าโซเชียลมีเดีย เพราะพี่แกถือเป็น AI ตัวท็อปที่มา แรงไม่น้อยหน้าใคร ได้กระแสดีไม่มีตกจากผู้ใช้งานทุกฟากฝั่ง แถมตัวเก่ายังไม่ทันจะใช้ฟังค์ชันครบ พี่แกก็เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ไปอีกแล้ว เรียกว่าเป็นนวัตกรรมแห่งปีเลยก็ได้ล่ะมั้ง

Last updated on พ.ค. 9, 2023

Posted on พ.ค. 3, 2023

แน่นอนว่า หลายเดือนที่ผ่านมา ChatGPT ก็ได้สร้างความตกตะลึงให้กับโลกเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะโต้ตอบได้ปกติแล้ว พี่แกยังช่วยค้นคว้าข้อมูล ถกปัญหา สร้างบทความ ไปจนกระทั่งเขียนโค้ดได้เลยทีเดียว

แต่ทว่าความสามารถเหล่านี้ก็กลายเป็นน้ำจิ้มไปเลย เมื่อ OpenAI บริษัทผู้ให้กำเนิด ChatGPT ได้เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ของ AI สุดฮิตนี้ในชื่อ GPT-4 ซึ่งการมาครั้งนี้ได้ยกระดับ ChatGPT ให้อลังยิ่งกว่าที่เคยหลายเท่าตัว ซึ่งวันนี้ CREATIVE TALK ก็จะพาทุกคนมาส่องความปังของเจ้า GPT-4 นี้กัน


GPT-4 คือการอัพเกรดเวอร์ชันใหม่อย่างเป็นทางการของ ChatGPT

แม้ว่าเดิมที ChatGPT ตัวดั้งเดิม จะได้รับการอธิบายว่าเป็น GPT-3.5 (รุ่นที่ 3.5) ซึ่งยังมีการอัพเดทอย่างต่อเนื่องมาจากเวอร์ชันแรก ๆ แต่ทว่าตัวมันเองก็ไม่ใช่เวอร์ชันใหม่แต่อย่างใด โดยเจ้า GPT-4 นี้จะไม่ใช่แค่อัพเดท แต่จะเป็นการอัพเกรดขนาดใหญ่ ตั้งแต่เปลี่ยนอินเทอร์เฟซ การตอบสนอง รวมไปถึงฟังค์ชันใหม่ ๆ ซึ่งช่วยให้มันสามารถแก้ปัญหาที่ดีกว่า ChatGPT ตัวดั้งเดิมเลยล่ะ


GPT-4 สามารถเข้าใจรูปภาพได้

การเข้าใจรูปภาพ ดูจะเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลง ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดของเจ้าแมชชีนเลิร์นนิงตัวใหม่นี้ โดยทาง OpenAI ได้เรียกระบบของ GPT-4 ว่า Multimodal ซึ่งหมายความว่า พี่แกสามารถเข้าใจรูปแบบของข้อมูลได้มากกว่าหนึ่งชนิด จากที่ ChatGPT ตัวดั้งเดิม สามารถทำได้เพียงแค่อ่านและเขียนอย่างเดียว (ซึ่งก็เป็นฟังค์ชันที่เทพเกินไปมาก) โดยเจ้า GPT-4 จะสามารถเข้าใจรูปภาพได้ด้วย แถมยังเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นได้อย่างดีเลยนะ


GPT-4 ถูกหลอกได้ยากกว่าเดิม

ในปัจจุบัน ผู้ใช้งานพยายามแกล้ง AI ด้วยวิธีสารพัด ซึ่งทำให้ AI ถูกหลอกได้อย่างง่ายดาย แต่เจ้า GPT-4 ถูกสร้างมาโดยการคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ นั่นทำให้พี่แกถูกหลอกได้ยากขึ้นกว่าเดิม ถ้าใครคิดจะปั่น ก็ต้องคิดให้ลึกขึ้นกว่าเดิมด้วย


GPT-4 มีหน่วยความจำขนาดใหญ่

แม้ ChatGPT เวอร์ชันดั้งเดิม จะมีคลังข้อมูลมหาศาลที่ได้จากเว็บไซต์ หนังสือ หรือบทความนับล้าน แต่เมื่อต้องสื่อสารกับคนจริง ๆ มันกลับถูกจำกัดตัวอักษร ทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถเข้าถึงรายละเอียดของข้อมูลได้มาก โดยขีดจำกัดของเวอร์ชันเก่าอยู่ที่ประมาณ 8,000 คำ ซึ่งทำให้มันสูญเสียรายละเอียดหลายอย่างไปในขณะให้ข้อมูล แต่ GPT-4 มีจำนวนคำมาให้ถึง 64,000 คำ โดยข้อมูลที่ได้มาก็ทำให้ผู้ใช้ ได้รับข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการสร้างเนื้อหาขนาดยาวขึ้นกว่าแต่เดิมหลายเท่าตัวเลยล่ะ


GPT-4 รองรับหลายภาษา

แม้ว่า ChatGPT นั้นจะสามารถพิมพ์ภาษาไทยได้ แต่มันก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้อย่างเต็มที่อยู่ดี นั่นเพราะโลกของ AI ถูกครอบงำโดยผู้ใช้ภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ข้อมูลตั้งต้น การทดสอบ ไปจนถึงเอกสารการวิจัย นี่จึงเป็นเหตุผลให้ ChatGPT แสดงผลออกมาเป็นภาษาอังกฤษ
ซึ่ง GPT-4 ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการแสดงให้เห็นว่า พี่แกสามารถตอบคำถามนับพันด้วยความแม่นยำกว่าเดิมใน 26 ภาษา อาทิภาษาอิตาลี ภาษายูเครน และภาษาเกาหลี ซึ่งการทดสอบความสามารถทางภาษาเบื้องต้นนี้มีแนวโน้มที่ดี แต่ยังห่างไกลจากการสื่อสารที่ถูกต้อง นั่นทำให้เรื่องภาษายังต้องพัฒนาอีกมาก


GPT-4 มี ‘บุคลิก’ ที่แตกต่างกัน

‘Steerability’ เป็นแนวคิดที่น่าสนใจสำหรับ AI ซึ่งหมายถึง ความสามารถในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามบทบาท นั่นทำให้นอกจาก GPT-4 จะเป็นแชทบอทแล้ว ยังสามารถเล่นโรลเพลย์กับผู้ใช้งานได้ด้วย อาทิหากผู้ใช้งานต้องการคำตอบที่มีความเห็นอกเห็นใจ พี่แกก็จะปรับตัวเองเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้วยล่ะ


GPT-4 ถือเป็นอนาคตใหม่ของวงการ AI นอกจากจะเป็นผู้ช่วยที่มีความสามารถแล้ว พี่แกยังสามารถปรับตัวเป็นเพื่อนที่ดีให้กับผู้ใช้งาน ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าเราจะเป็นใครหรือทำงานประเภทไหน เราเชื่อว่าในอนาคต ChatGPT จะเข้ามามีบทบาทกับชีวิตมากขึ้น หากใครสนใจข้อมูลเพิ่มสามารถเข้าไปลองใช้งานเวอร์ชันใหม่ (แบบเสียเงิน) ได้ที่ https://openai.com/blog/chatgpt-plus


ที่มา

trending trending sports recipe

Share on

Tags